“ประเสริฐ” ชี้รัฐบาลเล็งปรับกองทุนหมู่บ้าน ช่วยหนี้นอกระบบ เพื่อชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน

นายประเสริฐ กล่าวว่า ครั้งแรกที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีได้มาพบปะกับสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน รัฐบาลแพรทองธชินวัตรได้ให้ความสำคัญเรื่องของการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ หรือหนี้ภาคครัวเรือน ซึ่งมีอัตราส่วนสูงถึงร้อยละ 90 ของจีดีพี ซึ่งรัฐบาลต้องทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะลงตรงนี้ลงให้ได้ ซึ่งกองทุนหมู่บ้านเกิดขึ้นในยุคสมัยไทยรักไทย ซึ่งนำโดยนายทักษิณ ชินวัตรนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้โอนเงินกองทุนละ 1 ล้านบาทไปยัง 70,000 หมู่บ้าน เพื่อสร้างโอกาสและสร้างรายได้ เกิดและเติบโตขึ้นมา 23 ปี เป็น 23 ปีที่สำคัญผ่านการปฏิวัติมาสองครั้ง ทำให้กองทุนหมู่บ้านเกิดการสะดุด แต่เมื่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทยกลับมา จึงจะมีการแก้ไขปัญหาหนี้ โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ ดังนั้น จะขับเคลื่อนกองทุนหมู่บ้านมาปลดหนี้ให้กับประชาชนให้เป็นรูปธรรม ซึ่งการแก้ไขหนี้นอกระบบ เป็นภารกิจที่สำคัญของรัฐบาลที่จะแก้ไข ขณะเดียวกัน พร้อมต่อยอดโครงการ โค 1 ล้านตัว เพื่อสร้างรายได้ให้กับหมู่บ้าน นอกจากนี้จะขับเคลื่อนบริบทกองทุนหมู่บ้านให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยรัฐบาลจะเดินหน้ากองทุนหมู่บ้านภายใต้เงินงบประมาณ 11,000 ล้านบาท ทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด พร้อมฝากสมาชิกกองทุนหมู่บ้านทุกคนต้องใช้เทคโนโลยีมาบริหารกองทุนหมู่บ้าน สามารถทำให้กองทุนหมู่บ้านตามจังหวัด อำเภอ หมู่บ้านต่างๆ สามารถวิเคราะห์สถานะของตัวเองได้ นอกจากนี้ ยังเชื่อมโยงเศรษฐกิจดิจิทัล จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับความเป็นไปของโลก มั่นใจว่าด้วยความมุ่งมั่นและประสบการณ์จะขับเคลื่อนให้กองทุนหมู่บ้านบรรลุวัตถุประสงค์

ด้านนางสาวจิราพร กล่าวว่า จากปัญหาหนี้นอกระบบที่กระทบต่อการดำรงชีวิตกองทุนหมู่บ้านมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือสมาชิกและประชาชนในรูปแบบ เพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าไปเกี่ยวข้องกับหนี้นอกระบบ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณกว่า 11 ล้านบาท ผ่านโครงการสนับสนุนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อสร้างศักยภาพให้กองทุนสามารถดำเนินงานได้อย่างมีอิสระและตอบสนองความต้องการของชุมชน