ข่าวที่น่าสนใจ
ปปง. ตรวจสอบเบื้องต้นว่า พฤติกรรมการกระทำของบริษัทขายตรงดังกล่าว อาจจะเข้าข่ายลำดับที่ 3 ตามมูลฐาน 28 ความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ที่บัญญัติว่า “เป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา หรือความผิดว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”
อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถชี้ชัดหรือฟันธง ว่า เป็นความผิดตามมูลฐานกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องรอการสอบสวนของตำรวจก่อน ซึ่งถ้ามีการสอบสวนของตำรวจมาประกอบการพิจารณา จนนำมาสู่การแจ้งข้อหาหรือการส่งฟ้อง ปปง.ก็จะพิจารณาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สำหรับกฎหมายเกี่ยวกับการฟอกเงิน เป็นกฎหมายที่รุนแรง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน แต่ก็ต้องมีพยานหลักฐานให้ชัดเจน จึงจะสามารถอายัดป้องกันการโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สินได้
รองโฆษก ปปง.กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ปปง.เคยอายัดทรัพย์สินคดี “ซินแสโชกุน” “ฟอร์เร็ก ทรีดี” จนสามารถนำเงินไปคืนให้กับประชาชนผู้เสียหายแล้ว กรณีของบริษัท The Icon ก็พบว่าโมเดลการทำธุรกิจก็ไม่ต่างกัน ซึ่งเป็นลักษณะขายตรงหรือแชร์ลูกโซ่ แต่อาจจะมีแตกต่างกันบ้าง
ยืนยันว่า การตรวจสอบของ ปปง.ใช้เวลาไม่นาน ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการรวบรวมพยานหลักฐาน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ถ้าตำรวจแจ้งข้อหาหรือส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาก่อนสั่งฟ้อง ก็จะทำให้ ปปง.พิจารณาอายัดทรัพย์สินได้เร็วยิ่งขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
