“บิ๊กเต่า” เผยออกหมายเรียก 16 ลูกเรือขนน้ำมัน 3 ลำที่สูญหาย หลังพบอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด

ตำรวจออกหมายเรียก 16 ลูกเรือน้ำมัน 3 ลำที่สูญหาย หลังพบอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ส่วนตำรวจน้ำส่อพกพร่องต่อหน้าที่ร้ายแรง

Top news รายงาน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดีเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำของเครือข่าย “โจ้ ปัตตานี” หายไปจากสะพานตำรวจน้ำ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ว่า เส้นทางหลังจากที่เรือบรรทุกน้ำมันหายไป น่าจะล่องมุ่งหน้าไปทางน่านน้ำประเทศกัมพูชา ผ่านเวียดนาม ก่อนจะล่องลงใต้ เพื่อให้พ้นน่านน้ำของประเทศไทยโดยเร็วที่สุด ซึ่งได้ประสานทางการของประเทศต่างๆ โดยรอบทุกประเทศในการติดตามเรือบรรทุกน้ำมันทั้ง 3 ลำแล้ว พบว่ามีแนวโน้มไปในทางที่ดี และกำลังกดดันให้ผู้ต้องหาที่นำเรือไป นำเรือมาคืน ซึ่งเจ้าหน้าที่ขอเวลาทำงานอีก 3 วัน หากวันพุธที่ 19 มิถุนายนนี้ ยังไม่มีความคืบหน้า ก็จะเร่งหาแผนดำเนินการอื่น

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนจะมีการออกหมายเรียกลูกเรือ 16 คน ที่เหลือ ที่ไม่ได้ไปกับเรือบรรทุกน้ำมันที่หายไป มาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. ในวันที่ 17 มิถุนายนนี้นั้น ล่าสุดได้ออกหมายเรียกเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีการนัดหมายมาสอบปากคำในช่วงเช้า แต่จะมาครบทั้ง 16 คนหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้ ซึ่งหากไม่มา และไม่แจ้งเหตุผลที่เหมาะสม ก็จะต้องบังคับใช้กฎหมายตามขั้นตอนต่อไป

 

 

อีกทั้งจะมีการออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ยืนยันว่า หากพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงใคร จะต้องดำเนินคดีทั้งหมด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ เป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลมากระทำเช่นนี้ เหมือนล้วงคองูเห่า

 

ขณะที่ผลการตำรวจสอบวินัยตำรวจน้ำที่ดูแลรับผิดชอบเรือบรรทุกน้ำมันดังกล่าวนั้น ตามกรอบกำหนดให้ 30 วัน แต่ตนเองได้กำชับให้ผู้บังคับการตำรวจน้ำ เร่งสอบสวนให้มีความคืบหน้าภายใน 7 วัน หากส่วนใดที่คืบหน้า หรือพบการกระทำความผิด ก็จะให้ทยอยดำเนินการเบื้องต้นไปก่อนตามพยานหลักฐานที่ตรวจพบ แต่เบื้องต้นพบว่า ตำรวจน้ำ 3 – 4 นาย น่าจะเข้าข่ายบกพร่อง ทำให้เสียหายต่อราชการอย่างร้ายแรง ส่วนจะเข้าข่ายความผิดอื่นอีกหรือไม่ ต้องรอการตรวจสอบ แต่ยืนยันคดีนี้ไม่ล่าช้า ไม่ปล่อยให้ยืดยาวแน่นอน ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้

นอกจากนี้ กรณีที่มีคลิปวิดีโอลูกเรือคนหนึ่งอ้างว่า มี เสธ. คนหนึ่ง ยังไม่ให้เอาเรือออกนั้น ต้องขอตรวจสอบก่อน เนื่องจากคำว่า เสธ. ประชาชนทั่วไปอาจใช้เรียกบุคคลธรรมดาที่ไม่ใช่ เสธ. จริงๆ ก็ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“วิ่งไป เที่ยวไป กับแม่บ้านมหาดไทย” แปดริ้วคึกคัก! ชมแสงสีทองลับฟ้า ไหว้หลวงพ่อโสธร–กราบพระยาศรีสุนทร รวมพลังรักษาป่าเขาอ่างฤๅไน
ปิดฉากอย่างงดงาม โครงการ “สัปดาห์การบูรณาการการศึกษาและอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน”
กมธ.การทหาร ลงพื้นที่ ศึกษาดูงาน เยี่ยมชมหมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน
ชาวบ้านยี่งอรวมใจ “ยุติความรุนแรง” เดินขบวนส่งเสียงเรียกร้องคืนความสงบ หลังเหตุการณ์บึ้มกลางชุมชน
"Sattha The Power of Faith 2025" นิทรรศการแห่งศรัทธา ฉลอง 200 ปี ประเพณีถือศีลกินผักภูเก็ต ณ ไลม์ไลท์ ภูเก็ต
"กัน จอมพลัง" ตัดพ้อ ท้อแต่ไม่ถอย ขอสังคมตัดสินที่การกระทำ ยันมูลนิธิฯมีหลักฐานความบริสุทธิ์

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​