ประวัติไม่ธรรมดา “น้องหญิง” คลื่นพลังบุญ อดีตนักธุรกิจรางวัลใหญ่ ชีวิตเปลี่ยนไปมากหลังเข้าป่า

ประวัติไม่ธรรมดา "น้องหญิง" คลื่นพลังบุญ อดีตนักธุรกิจรางวัลใหญ่ ชีวิตเปลี่ยนไปมากหลังเข้าป่า

จากกรณีในโลกโซเซียลได้มีการเผยแพร่คลิปภาพสถานที่แห่งหนึ่ง ชื่อว่า “สำนักธรรมสุขาวดี” ตั้งอยู่ในเนื้อที่ 11 ไร่ ในอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี และภายในสถานที่แห่งนี้จะมีการติดป้ายคือ “ไม่ศรัทธา ไม่ต้องรักษาไม่หาย ศรัทราเท่านั้นจิงพบปฏิหาริย์ ศรัทธาต่อ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระพุทธเจ้า 5 พระองค์” รวมทั้ง ป้ายข้อความ “ไม่เชื่อ : ไม่หาย ไม่ศรัทธา : ไม่หาย ไม่นอบน้อม : ไม่หาย มีแต่สงสัย : ไม่หาย ไม่เชื่อเรื่องเวร-กรรม (ไม่ต้องมารักษา)”

โดยสำนักธรรมสุขาวดี แห่งนี้นั้น สามารถรักษาโรคได้ทุกโรคและอาการเจ็บปวดได้ โดยใช้ญาณและฌานในการสื่อสารกับพระเจ้า 5 พระองค์ ผ่านไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสื่อกลางระหว่างพระเจ้า 5 พระองค์ โดยจะมีเสียงสะอื้น “กึ๊ด ๆ” ผ่านจมูก ซึ่งมีอาจารย์และน้องหญิง เป็นผู้รักษา นั้น

กระทั่งต่อมา “น้องหญิง” สาวผู้อ้างตัวมีฌานพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ที่สามารถดึงคลื่นพลังบุญจากพระพุทธเจ้ามารักษาผู้ป่วยได้ทุกโรค กลายเป็นคนดังชั่วข้ามวัน หลังจากที่เธอไปออกหลายรายการติดต่อกัน และได้สร้างความฮือฮาให้กับสังคมเป็นอย่างมาก อาทิ ในรายการโหนกระแสที่ทำเอา “หนุ่ม กรรชัย” พิธีกรรายการถึงกับร้องอุ้ย! เพราะเธอบอกว่านี่ไม่ใช่ลัทธิความเชื่อ แต่ประเด็นไปไกลถึงควอนตัมฟิสิกส์ และเผยว่าเป็นงานวิจัยชิ้นเอก! จนทำเอาสับสนกันหนักยิ่งกว่าเชื่อมจิต!

 

 

 

 

 

 

และล่าสุดวานนี้ในรายการเปิดปากกับภาคภูมิ จู่ๆ น้องหญิงก็ร้องไห้ลั่นกลางรายการ ทำเอาพิธีกร อย่าง “ภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์” ถึงกับตกอกตกใจ

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เรื่องนี้กลายเป็นข่าวโด่งดัง กระแสสังคมจับจ้องมาตลอดสัปดาห์ ล่าสุดทางช่อง 8 ได้ขุดประวัติว่า “น้องหญิง” คนนี้ ไม่ธรรมดา! “น้องหญิง” ปัจจุบันเธออายุ 38 ปี มีชื่อจริงว่า น.ส.โสรวีร์ ทองอินทร์ ก่อนที่เธอจะมาเปิดสำนักคลื่นพลังบุญ อดีตเธอเป็นนักธุรกิจมาก่อน โดยในปี 63 ได้รับรางวัลนักธุรกิจยอดเยี่ยมของดาราวาไรตี้ อวอร์ดส์ ครั้งที่ 2 ซึ่งตอนนั้นพูดจาฉะฉาน ต่างจากปัจจุบันที่พูดเจ้าคะ เจ้าขา

ตัวอย่างคำตอบน้องหญิงครั้งให้สัมภาษณ์เมื่อ 4 ปีก่อน
“ดีใจมาก ๆ เลยค่ะ สำหรับวันนี้ที่ได้รับเลือกให้รัะบรางวัล ก็ภูมิใจมาก ๆ ก็วันนี้นะคะเกี่ยวกับสาขานักธุรกิจดีเด่น..”

 

 

นอกจากนี้ น้องหญิงยังได้เล่าถึงภูมิหลังในอดีตก่อนที่จะมาเป็นน้องหญิงในปัจจุบันนี้ ว่า หลังจากที่ตนเองจบการศึกษาปริญญาโท ด้านวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม เป็นนักวิจัยและพัฒนา จบได้เพราะทุนแผ่นดิน ได้มีโอกาสทำงานบริษัทเอกชนหลายแห่งและเคยเปิดบริษัทเป็นของตนเองด้วย แต่ช่วงหลังมีปัญหาชีวิตเพราะบริษัทไม่ประสบความสำเร็จ อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องความรัก เนื่องจากถูกแฟนทิ้งและยังมีปัญหาในเรื่องของสุขภาพ เพราะขนาดที่ยังใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป ตนเองชอบปาร์ตี้และดื่มสังสรรค์ เป็นเหตุทำให้ร่างกายทรุดโทรมและเจ็บป่วย ซึ่งจากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ตนฉุกคิดได้ว่าจะใช้ชีวิตแบบเดิมต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงเริ่มนั่งสมาธิเพื่อฝึกอยู่กับตนเอง ไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตทางโลกกระทั่งญาณเปิด

 

 

จนกระทั่งได้มาเจอกับอาจารย์โดยบังเอิญก็รู้สึกว่าเคมีตรงกัน จนตัดสินใจพากันเข้าป่าเพื่อบำเพ็ญเพียร ซึ่งใช้เวลาอยู่หลายปี กว่าที่จะค้นพบฌานจากพระพุทธเจ้า 5 พระองค์

จากนั้นก็ได้มีการเปิดเผยต่อว่า ช่วงเวลาที่เจ้าตัวอ้างว่าค้นพบฌานจากพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ภายหลังจากที่สัมผัสฌานได้ ก็ทำให้น้องหญิงคนเดิมในโลกมนุษย์ได้ตายไปแล้ว และได้เกิดเป็นน้องหญิงในอีกโลก ในช่วงเเรกๆ น้องหญิงยังมีอาการเเปลกๆ บางครั้งก็เดินเหมือนคนเเก่ เป็นการสัมผัสฌาณจาก “องค์พ่อ” และลักษณะการพูดจาก็เปลี่ยนไปเอง ไม่เหมือนกับมนุษย์โลกที่พูดจาปกติทั่วไป

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งช่วงแรก ๆ ตนเองจะพูดเสียงเล็ก ๆ คล้ายกับเด็ก แต่บางคนไม่เข้าใจก็มองว่าเหมือนคนบ้า แต่ตนเองก็ไม่หวั่นไหวต่อคำดูถูก เพราะเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่จากองค์พ่อให้ช่วยเหลือมวลมนุษยชาติทางโลก เพื่อให้พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด เนื่องจากตนเองได้เกิดมาในชาติสุดท้ายแล้ว ยืนยันว่าตนและอาจารย์จะยังช่วยเหลือมวลมนุษยชาติต่อไป หลังจากที่ได้ช่วยเหลือไปแล้วหลายหมื่นคน โดยเป้าหมาย คือ 5 ล้านคน รวมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติด้วย

 

 

 

จากนั้นทางทีมข่าวช่อง 8 ก็ได้มีการตรวจสอบผลงานวิจัยของน้องหญิง พบว่า ผลงานวิจัยดังกล่าว ถูกจัดทำขึ้นเมื่อปี 2566 โดยในงานวิจัยดังกล่าว ได้ระบุชื่อ ดร. คนหนึ่ง ในมหาวิทยาลัยทางภาคใต้ แต่ในผลงานวิจัยยังไม่ได้มีการเซ็นเอกสารรับรองแต่อย่างใด และก็ไม่ได้มีลายเซ็นของน้องหญิงด้วยเช่นกัน

 

 

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงได้มีการสอบถามน้องหญิงเกี่ยวกับงานวิจัยชุดนี้ ว่าเป็นการแอบอ้างหรือไม่ ซึ่งทางน้องหญิงยืนยันว่าไม่ได้มีการแอบอ้างชื่อนักวิชาการ เนื่องจากนักวิชาการคนดังกล่าว เป็นลูกศิษย์ที่เคยเข้ารับการรักษากับตนเอง และเป็นคนออกค่าใช้จ่ายในการทำวิจัยให้ อีกทั้งนักวิชาการรายนี้ ยังให้ความสนใจกับศาสตร์แขนงนี้ เนื่องจากเข้ารับการรักษากับตนแล้วหาย

 

 

และทีมข่าวช่อง 8 ยังได้พบรูปภาพในอดีตของน้องหญิงที่แสดงถึงการศึกษา ว่าเจ้าตัวได้มีการเรียนจบปริญญาตรี เคมีวิเคราะห์ มหาวิทยาลัยราชมงคล (กรุงเทพฯ) พร้อมทั้งลงรูปภาพ น้องหญิงอยู่ในห้อง lab สมัยเรียน และรูปถ่ายใส่ชุดครุยตอนจบการศึกษา ซึ่งได้มีการถ่ายรูปรวมกันร่วมกันกับกลุ่มเพื่อน นอกจากนี้ยังมีการระบุว่า ตัวน้องหญิงเรียนจบชั้นปริญญาโท วิทยาศาสตร์-สิ่งแวดล้อม แต่ไม่ได้ระบุสถาบันที่จบการศึกษา รวมทั้งเคยเป็นเคยนายกโรตารี คลับ ปี 2021

 

 

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตามมีรายงานอีกว่า “น้องหญิง” เคยถูกจับเมื่อปี 61 ซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับการทำธุรกิจ ไม่เกี่ยวกับการใช้พลังบุญรักษาคน ทั้งนี้ ในส่วนของคดีความเกี่ยวกับเรื่องอ้างพลังวิเศษทั้ง 5 นี้ ยังไม่มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ดำเนินคดีจึงยังไม่มีความผิดในทางกฎหมาย และเธอยืนยันว่าสิ่งที่ทำไม่ใช่การ “เชื่อมจิต”

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สันติสุข" เทียบเจ็บ "ฮุน เซน" เหมือนคนคลั่งยา จับสมาชิกครอบครัวเป็นตัวประกัน ปลุกระดมทะเลาะไทย พาคนในชาติเดือดร้อนทั่วหน้า
วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม
สร.รฟท. ลงพื้นที่อีสาน ให้กำลังใจทหาร "ตาเมือนธม" คารวะทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยแผ่นดิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น