วันที่ 6 ก.ย. -นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงโครงการโรงเรียน Sandbox Safety Zone in School (SSS) ว่า โครงการดังกล่าวเป็นมาตรการเปิดเรียนมั่นใจปลอดภัยไร้โควิด-19 ในโรงเรียนประจำ เช่น โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนเอกชนบางแห่งที่มีความพร้อม ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ จะประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเดินหน้าทำโครงการนี้ไปพร้อมกัน เนื่องจากการดำเนินการโครงการนี้จะต้องมีการลงพื้นที่ตรวจโรงเรียนที่จะประสงค์เข้าโครงการ ว่า เป็นไปตามมาตาการที่เราได้วางไว้หรือไม่ ทั้งนี้เมื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ได้รับวัคซีนครบหมดทุกคนแล้วก็จะนำไปสู่การเปิดเรียนในรูปแบบไฮบริด คือ การเปิดเรียนที่มีทั้งนักเรียนอยู่ประจำและออนไลน์ แต่ทุกอย่างจะยึดมาตรการความปลอดภัยด้านสุขภาพของนักเรียนเป็นหลัก
ด้านนางเกศทิพย์ ศุภวานิช โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การเป็นโรงเรียน Sandbox Safety Zone in School มีเงื่อนไข 3 ข้อ คือ 1.โรงเรียนประจำ 2.เป็นไปตามความสมัครใจของทุกฝ่าย และ3.ผ่านการประเมินความพร้อม ซึ่งมีแนวปฏิบัติการเข้าร่วมโครงการต้องแจ้งความประสงค์ผ่านต้นสังกัด มีการหารือร่วมกับผู้ปกครองและผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อของจังหวัด จัดให้มีสถานแยกกักตัวในโรงเรียน จัดให้มี Safety Zone ในโรงเรียน มีการติดตามประเมินผลโดยทีมตรวจราชการของ ศธ. และ สธ. รวมทั้งรายงานผลผ่าน MOECOVID และ Thai Stop Covid Plus ขณะนี้มี 68 แห่งที่เข้าร่วม ประกอบด้วย สังกัดสำนักบริหารการศึกษาพิเศษ 20 แห่ง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา 3 แห่ง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 1 แห่ง และสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน 14 แห่ง เป็น ร.ร.นานาชาติเอกชน 14 แห่ง และ ร.ร.เอกชนนักเรียนไทย 12 แห่ง