วันที่ 19 พ.ค.66 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย น.ต.ศิธา ทิวารี แกนนำพรรคไทยสร้างไทย และสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่ตลาดละลายทรัพย์ ถนนสีลม เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนจากผู้ค้า และสิ่งที่พี่น้องประชาชน ต้องการให้รัฐบาลใหม่เร่งผลักดัน โดยมีพ่อค้า แม่ค้า รวมถึงประชาชนที่ทำงานและอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงมาร่วมทักทายและขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า หลังจากที่มีการลงนามจัดตั้งร่วมจัดรัฐบาลไปเมื่อวานนี้ (18 พ.ค.66 ) ขณะนี้ ทางด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เป็นผู้ดูแลประสาน รวมถึงดำเนินการในส่วนนี้ โดยพรรคไทยสร้างไทยจะมีการเรียกประชุมพรรคในอีก 1-2 วันข้างหน้า เพื่อศึกษารายละเอียดของ MOU และนำรายละเอียดนโยบายของพรรคไทยสร้างไทยใส่เข้าไป โดยเฉพาะสิ่งที่ได้พรรคได้เน้นย้ำถึงนโยบายในการดูแลเศรษฐกิจและการดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ รวมถึงจุดยืนต่างๆ ที่พรรคต้องการขจัดในเรื่องของความขัดแย้งและเดินหน้าประเทศไทยให้ได้ โดยเฉพาะในเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจ และการทำให้ประเทศไทยกลับไปยืนอยู่บนแผนที่การแข่งขันโลกให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงร่าง MOU ที่สอดรับนโยบายของพรรค คุณหญิง ระบุว่า จากที่ดูร่าง MOU ส่วนใหญ่ที่มีนโยบายใกล้เคียงกับพรรคมีประมาณ 8 ข้อ ซึ่งมาจากสรุปของพรรคก้าวไกลที่ส่งไปยังพรรคร่วมรัฐบาล
ด้าน น.ต.ศิธา กล่าวต่อว่า ในเรื่องของนโยบายที่พรรคก้าวไกลได้สรุปมาให้นั้น ส่วนใหญ่มีความใกล้เคียงกับพรรคไทยสร้างไทย ในเรื่องของการขึ้นค่าแรงที่ทุกพรรคมองว่า ค่าแรงปัจจุบันต่ำ /สมรสเท่าเทียม /ส่วนของกฎหมายอื่นๆ ก็มีความใกล้เคียงกัน โดยในเรื่องของข้อกฎหมายที่มีความกังวลในเรื่องของ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งไม่มีอยู่ใน MOU
โดย MOU คือกฎหมายที่ทุกพรรคเห็นพ้องต้องกันว่าจะต้องร่วมกันผลักดันโดยที่ไม่มีพรรคไหนจะคัดค้าน ที่เหลือจะเป็นในเรื่องของข้อกฎหมายที่เห็นพ้องต้องกัน แต่อาจจะไม่ใช่กฎหมายที่จำเป็น เพราะกฎหมายที่จะผ่านสภาในสี่ปีข้างหน้ามีเป็นร้อยเป็นพันฉบับ จึงไม่ได้มีการระบุไว้ใน MOU
ขณะที่กฎหมายที่หลายฝ่ายกังวล อย่างเช่น ม. 112 ก็ไม่ได้มีการนำมาบรรจุไว้ใน MOU และในเรื่องของข้อกฎหมายและความกังวลต่างๆ นั้น ไม่ได้เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของรัฐสภา ซึ่งพรรคก้าวไกลจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ได้เป็นรัฐบาลก็มีจำนวน ส.ส. 150 กว่าเสียงเช่นเดิม ดังนั้น หากจะผ่าน กฎหมายมาตราใดฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลก็สามารถเสนอได้เช่นเดิมและไม่เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล