No data was found

“หญิงหน่อย” รู้หรือไม่ก๊วน 3 นิ้ว ทำผิดอะไรโดนคดีม.112 อย่าพูดมั่วกม.ถูกนำใช้กลั่นแกล้ง

กดติดตาม TOP NEWS

"หญิงหน่อย" รู้หรือไม่ก๊วน 3 นิ้ว ทำผิดอะไรโดนคดีม.112 อย่าพูดมั่วกม.ถูกนำใช้กลั่นแกล้ง

น่าสนใจยิ่งกับคำแถลงของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยกรณีถูกสื่อตั้งคำถามถึงจุดยืนในเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ระหว่างร่วมแถลงข่าว 8 พรรคการเมืองจัดตั้งรัฐบาล โดยมี “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นผู้นำการแถลงข่าวดังกล่าว

ประเด็นที่น่าสนใจ คือ คุณหญิงหน่อยแถลงข่าวว่า ประเด็นมาตรา 112 หน้าที่ของพรรคการเมืองทุกพรรคตามรัฐธรรมนูญต้องรักษาชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ ดังนั้นการจะทำอะไรแล้วไปกระทบทำให้สถาบันเกิดความเสื่อมเสียทุกพรรคการเมืองจะต้องปกป้อง ส่วนการที่ผู้มีอำนาจใช้ประเด็น 112 เพื่อกลั่นแกล้งหรือทำร้ายกันคงต้องพิจารณาและมาดูแต่ละประเด็นของการที่จะทำให้มาตรา 112 ปกป้องสถาบันได้อย่างดีและไม่เป็นเครื่องมือให้กับใครที่มีอำนาจไปทำร้ายคนอื่น”

อะไรคือสิ่งที่ “คุณหญิงสุดารัตน์” คิดไปว่า มาตรา 112 ถูกผู้มีอำนาจนำไปใช้ในการรังแกประชาชน

ดังนั้น “ท็อปนิวส์” ขอย้อนพฤติกรรมของบรรดาแกนนำม็อบคณะต่าง ๆ รวมถึงว่าที่ ส.ส.และผู้ช่วย ส.ส.พรรคก้าวไกลที่กระทำผิดในคดี112 ว่า คนเหล่านี้ถูกผู้มีอำนาจกลั่นแกล้งหรือไม่?

“อานนท์ นำภา” ทนายความแกนนำม็อบราษฎร
– 3 ส.ค. 63 ปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย “เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย” เนื้อหากล่าวถึงบทบาทสถาบันฯ กล่าวหาเรื่องการออกกฎหมาย แก้ไขกฎหมาย ภายใต้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ในยุค คสช. และรัฐบาลชั่วคราวส่งผลต่อพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์ และยังตั้งคำถามเรื่องกฎหมายจัดการทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือเป็นการดูหมิ่น หมิ่นประมาท ใส่ร้ายพระมหากษัตริย์ กลางที่สาธารณะ
ทำให้ถูกแจ้งความดำเนินคดี สน.ชนะสงคราม และนอกจากนี้นายอานนท์ปราศรัยที่ จ.เชียงใหม่ด้วยถ้อยคำลักษณะเดิมถูกแจ้งความที่สภ.เมืองเชียงใหม่

“เพนกวิน” พริษฐ์ ชีวารักษ์
-8 พ.ย. 63 น โพสต์เฟซบุ๊กล่วงละเมิด หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาดมาดร้ายต่อในหลวงรัชกาลที่ 10 ซึ่งประชาชนหรือบุคคลทั่วไปที่พบเห็นข้อมูล เข้าใจได้ว่ารัชกาลที่ 10 ทรงอยู่เบื้องหลังการใช้ความรุนแรงไม่มีการประนีประนอม โดยการใช้รถฉีดน้ำใส่ประชาชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อพระมหาษัตริย์ ทำให้ประชาชนทั่วไปเกิดความรู้สึกดูหมิ่นและเกลียดชังสถาบัน ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งประเทศจนอาจนำมาซึ่งความแตกแยกในสังคม

 

แกนนำคณะราษฏร (อานนท์ ,พริษฐ์ , ปนัสยา , ภาณุพงศ์ ,ปติวัฒน์ ,สมยศ ,จตุภัทร์ )
-19 ก.ย.63 ปราศรัยในการชุมนุมทวงอำนาจคืนราษฏรที่สนามหลวง กทม. พบแกนนำมีการปราศรัย เรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ และกระทำจาบจ้วงหมิ่นประมาท ใส่ร้าย บิดเบือน ทำให้พระมหากษัตริย์เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เป็นการยุยงปลุกปั่น และยังมีการปราศรัย ในประเด็น ประมุขของรัฐต้องได้รับคำวิจารณ์ เพราะมีรายได้ประจำปี 3 หมื่อนล้านและสนับสนุนข้อเสนอปฎิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ 10 ข้อ และยังมีพฤติกรรมของแกนนำอื่นๆ ที่ปราศรัยในลักษณะเดียวกันอีกหลายคน ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานส่งฟ้องศาลอาญา

 

“มายด์ ภัสราวลี” และแนวร่วม (เบญจา อะปัญ , อรรถพล บัวพัฒน์ ฯลฯ)
26 ต.ค.63- ม็อบราษฏรปราศรัยอ่านแถลงการณ์ในการชุมนุมที่หน้าสถานทูตเยอรมัน และอ่านแถลงการณ์ขอให้ประเทศเยอรมันตรวจสอบ เรื่องการใช้พระราชอำนาจบนดินแดนเยอรมันหรือไม่

 

เบนจา อะปัญ กับ เพนกวิน
ปราศรัยที่หน้า อาคารศรีจุลทรัพย์ ที่ทำการบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งเป็นการปราศรัยที่โจมตี ใส่ร้ายพระมหากษัตย์ สอดรับ กับการ live ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปมวัคซีนพระราชทาน ที่นายธนาธรถูกแจ้งความดำเนินคดีในม.112 ด้วยเช่นกัน

 

“รุ้ง ปนัสยา” สิทธิจิรวัฒนกุล
-8 พ.ย. 2563 ใช้เฟซบุ๊กแชร์ข้อความจากโพสต์ของพริษฐ์ โดยบัญชีดังกล่าวเปิดเป็นสาธารณะประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งเป็นข้อความที่ดูหมิ่นสถาบันทำให้ประชาชนเสื่อมความเคารพศรัทธาต่อรัชกาลที่ 10 อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์
-28 ก.พ 64วางเพลิงโดยใช้น้ำมันก๊าดราดใส่และจุดไฟเผาพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ซึ่งได้ประดิษฐาน ไว้ที่บริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯไฟได้ลุกลามไหม้พระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมโครงไม้ เหล็กและอุปกรณ์ที่ประดับจนได้รับความเสียหาย ซึ่งพระบรมฉายาลักษณ์ที่ประดิษฐานอยู่นั้นเรือนจำกลางคลองเปรม เป็นหน่วยราชการได้จัดทำขึ้นไว้เพื่อแสดงความจงรักภักดี เป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระมหากษัตริย์ หรือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10

สิทธิโชค ไรเดอร์
-18 ก.ค. 64 ใช้ขวดพลาสติกบีบน้ำมันพ่นใส่กองเพลิงซึ่งลุกไหม้อยู่บริเวณผ้าประดับพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ซึ่งประดิษฐานอยู่บริเวณเกาะกลางถนนราชดำเนินนอก แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ทำให้กองเพลิงดังกล่าว เริ่มลุกไหม้มากขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน ได้ฉีดน้ำดับเพลิงดังกล่าวได้ทัน เพลิงจึงไม่ลุกลามไปถึงพระบรมฉายาลักษณ์ โดยคดีนี้ศาลตัดสินจำคุก 3 ปี 6 เดือน

ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ (ตะวัน) -นางสาวอรวรรณ ภู่พงษ์ (แบม)
-8 ก.พ.65 ตะวัน-แบมทำกิจกรรมทำโพลขบวนเสด็จของกลุ่ม “ทะลุวัง” ในวันดังกล่าวนักกิจกรรมกลุ่มทะลุวังและประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งมีตะวันและแบมรวมอยู่ด้วยไปรวมตัวกันที่สยามพารากอน นักกิจกรรมถือป้ายกระดาษแข็งเขียนข้อความว่า “เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยที่ขบวนเสด็จสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชน” และใต้ข้อความดังกล่าวมีการตีเส้นแบ่งพื้นที่ให้ประชาชนนำสติกเกอร์มาติดแสดงความคิดเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วในการทำกิจกรรมครั้งนั้นผู้ร่วมกิจกรรมยังพยายามไปถือป้ายที่หน้าร้าน “SIRIVANNAVARI” ซึ่งอยู่ในบริเวณห้าง ในตอนท้ายผู้ร่วมกิจกรรมร่วมกันเดินไปที่วังสระปทุมซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อนำโพลสำรวจความคิดเห็นมาส่ง ต่อมาตะวันและแบม รวมถึงผู้ร่วมกิจกรรมในวันนั้น 9 คนได้รับหมายเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหา ก่อนที่อัยการจะมีความเห็นสั่งฟ้อง

 

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล
18 ม.ค. 64-เผยแพร่เฟซบุ๊กไลฟ์หัวข้อ “วัคซีนพระราชทาน ใครได้-ใครเสีย” คดีนี้อัยการสูงสุดยื่นฟ้องในฐานความผิดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตาม มาตรา 14 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

ปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล
โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ และในบล็อกคณะก้าวหน้ เกี่ยวกับประเด็นการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์และเสนอให้แก้ไขปรับปรุงกฎเกณฑ์ทางกฎหมายที่เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ทั้งในระดับรัฐธรรมนูญและระดับพระราชบัญญัติมา โดยคดีนี้นายเทพมนตรี ลิปพยอม แจ้งความดำเนินคดีตามมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2564 ที่ สน.ดุสิต โดยอัยการได้ขอเลื่อนนัดสั่งคดีเป็นวันที่ 24 พ.ค.นี้

 

“ช่อ” พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล

21 พ.ย.56 – 9 มิ.ย.62 โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กของให้ผู้อ่านเข้าใจว่าสถาบัน ฯ ถูกใช้เป็นอาวุธในการทำร้ายผู้เห็นต่างหรือฝ่ายตรงข้ามทางการเมือที่เป็นเหตุให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก อันเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ฯ โดยศาลอาญา ประทับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.567/2565

ปิยรัฐ จงเทพ หรือ “โตโต้” (ว่าที่ ส.ส.กทม พรรคก้าวไกล)
-30 ธ.ค. 63 โพสต์เฟซบุ๊ก “โตโต้ ปิยะรัฐ- Piyarat Chongthep” หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายสถาบัน โดยโพสต์ข้อความและภาพถ่าย ตั้งค่าเป็นสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนและบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร และมีเจตนามุ่งหมายเพื่อให้ประชาชนเกิดความรู้สึกดูหมิ่น เกลียดชัง และไม่เคารพเทิดทูนสถาบัน

“ชลธิชา แจ้งเร็ว” หรือลูกเกด ว่าที่ ส.ส.ปทุมธานีพรรคก้าวไกล
-8 พ.ย.2563 โพสต์เฟซบุ๊ก ‘ราษฎรสาส์น’เรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันฯ โดย นพดล พรหมภาษิต แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) จากนั้นอัยการมีคำสั่งฟ้องคดีนี้ตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และถูกฟ้องต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 ซึ่งศาลให้ประกันตัว โดยให้วางหลักทรัพย์ 90,000 บาท พร้อมกำหนดให้ติดกำไลอีเอ็ม

ปัจจุบันคดีการกระทำผิดมาตรา 112 ถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีนำไปกล่าวอ้างว่ามีผู้ต้องหาหลายร้อยคนถูกกลั่นแกล้งต้องติดคุกติดตารางจึงจำเป็นต้องแก้ไขมาตรา 112 แต่ถ้าย้อนไปดูพฤติกรรมของคนเหล่านี้ โดยเฉพาะบรรดาเจ้าพ่อลัทธิอย่าง “ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ” จะรู้ดีกว่าคนกลุ่มนี้ต้องการสานต่อมรดกของกลุ่มคณะราษฏร 2475 ที่ทำร้ายสถาบันกษัตริย์มานับครั้งไม่ถ้วน…ซึ่งพรรคก้าวไกลกำลังรับไม้ต่อมรดกชิ้นนี้หรือไม่…?

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อุปนายก "สมาคมคนพิการฯ" เสียงแข็งโควต้าสลากฯส่งแค่สมาชิก แจงละเอียด ทำไม "หวย" บางล็อต หลุดโผล่ยี่ปั๊ว นายทุนออนไลน์
ว่อนโซเชียล ! พระสงฆ์ใช้บาตรฟาดหัวโยม ล่าสุดเจ้าอาวาสสั่งให้ออกจากวัดแต่พระรูปดังกล่าวไม่ยอมชี้หน้าด่ากราดเจ้าอาวาสวัด
พัทยา ร้อนจัด ส่งผลกระทบ 2 อ่างหลักเก็บน้ำดิบ แห้งขอด หากฝนยังไม่ตก หวั่นกระทบต่อประชาชนและภาคท่องเที่ยว
อย่าเพิ่งรีบเติม พรุ่งนี้ “น้ำมันลดราคา” เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ปรับลง 0.50 บาทต่อลิตร
เปิดรายชื่อ 15 องค์กรหลัก รับโควต้าสลากฯ แค่ขายให้หมด กินส่วนต่าง 1.60 บาท/ใบ รายได้รวมเกือบ 30 ล้านต่อเดือน
จีน แก๊ง ‘โลมาหัวบาตรหลังเรียบแยงซี’ ว่ายน้ำเล่น
"สรรเพชญ" สวน "อุ๊งอิ๊ง" วิจารณ์แบงก์ชาติ ชี้ดื้อรั้นแจกเงินดิจิทัล กระทบการคลังปท.
กัมพูชาเตือนประชาชนเลี่ยง ‘แดด’ หลังอุณหภูมิพุ่ง 43°C
เกาหลีใต้ เตือนภัยสถานทูตใน 5 ประเทศ
หลายชาติส่ง 'ทุเรียน' ตีตลาดจีน ทุเรียนไทยเสี่ยงไม่ได้ 'ยืนหนึ่ง' ต่อ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น