“จุรินทร์” ปัดทิ้งตระกูล “เสนพงศ์” ชี้เลือกว่าที่ผู้สมัครตามเหมาะสม

"จุรินทร์" ปัดทิ้งตระกูล "เสนพงศ์" ชี้เลือกว่าที่ผู้สมัครตามเหมาะสม พร้อมปรับยุทธศาสตร์เลือกตั้งใหม่ สู้ศึกบัตร 2 ใบ ปัดตอบอนาคตการเมือง "ประยุทธ์" มองโตแล้วคิดเองได้

วันที่ 13 พ.ย.65 ที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึง ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.พังงาของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า พังงามีตัวว่าที่ผู้สมัครครบแล้ว และพร้อมแล้วรอเพียงการเปิดตัว ที่จะทยอยเปิดแต่ละจังหวัดในภาคใต้ ซึ่งมีความพร้อมหมดแล้ว ได้ตัวผู้สมัครเกือบครบแล้ว

ส่วนกรณีที่ตระกูลเสนพงศ์ ประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ยกตระกูล พร้อมบอกว่า “เขาไม่ได้ทิ้งพรรคแต่พรรคทิ้งเขา” นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่มีใครทิ้งใคร เพียงแต่พรรคต้องพิจารณาตามความเหมาะสมตามขั้นตอน พรรคให้ความเป็นธรรมกับทุกคน แต่ 1เขตมีผู้แทน ได้1คน จะส่ง2คนก็ไม่ได้ ยกเว้นสนใจจะลงบัญชีรายชื่อ แต่ถ้าไม่ลงบัญชีรายชื่อพรรคก็ไม่มีทางออก ซึ่งทุกพรรคก็เป็นเช่นนี้ไม่ใช่แค่พรรคประชาธิปัตย์ ฉะนั้นพรรคก็ให้ความเป็นธรรมและต้องเป็นไปตามผลสำรวจที่ออกมาด้วย

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนจะมีวิธีการหยุดเลือดไหลออกจากพรรคอย่างไรนั้น ภายในพรรคประชาธิปัตย์มีการพูดคุยกันมาโดยตลอดและได้มีการทำงานไปด้วยกันได้ดีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และทำงานอย่างมียุทธศาสตร์มีเป้าหมายไม่สะเปะสะปะ และกำหนดไว้หมดแล้วว่าพื้นที่ใดเป็นพื้นที่เป้าหมายพิเศษ และพื้นที่ใดต้องดำเนินการต่อ เพราะการเลือกตั้งครั้งหน้าเปลี่ยนไปจากบัตรใบเดียว เป็นบัตร 2 ใบ ยุทธศาสตร์ในการหาเสียงก็ต้องมีความแตกต่างกันออกไปในรายละเอียด แต่พรรคก็เข้าใจเพราะเคยลงสมัครรับเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบมาแล้วก็พอจะทราบว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ผู้สมัครเองก็ทราบเพราะฉะนั้นทุกคนก็มีหน้าที่ของตนเอง พร้อมมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะได้ส.ส.มากกว่าเดิม สำหรับผลสำรวจจากหน่วยงานต่างๆก็ใช้ประกอบด้วย แต่ก็ต้องมีผลสำรวจของตนเองด้วย ซึ่งตอนนี้ผู้สมัครทั้งหมดนโยบายแผนยุทธศาสตร์ก็ได้มีการกำหนดในทางหลักการเรียบร้อยแล้ว

พร้อมกันนี้ นายจุรินทร์ ไม่ขอตอบ ถึง กรณีอนาคตทางการเมืองของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวว่า ประชาธิปัตย์ก็ต้องเดินหน้าในฐานะความเป็นประชาธิปัตย์เราเป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ มีทิศทาง มีเป้าหมายในการทำหน้าที่เพื่อส่วนรวม จะให้ไปคิดเหมือนทุกพรรคก็ไม่ได้และจะให้ทุกพรรคคิดเหมือนเราก็ไม่ได้เพราะฉะนั้นพรรคการเมืองแต่ละพรรคก็มีความแตกต่างกัน ส่วนพลเอกประยุทธ์ จะตัดสินใจอย่างไรก็ต้องไปถามพลเอกประยุทธ์ ว่าจะไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดหรือไม่ หรือจะให้พรรคการเมืองไหนเสนอชื่อเป็นแคนดิเดต แต่ก็คงต้องคิดว่าถ้าให้พรรคการเมืองที่ได้ส.ส.ต่ำกว่า 25 เสียง เสนอชื่อ เมื่อเลือกตั้งเสร็จก็จะหมดโอกาสที่จะได้เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมรัฐสภา พร้อมมองว่าพลเอกประยุทธ์เป็นผู้ใหญ่แล้วคงตัดสินใจเองได้ว่าจะเดินหน้าทางการเมืองอย่างไร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตำรวจนำตัวบอม คนร้ายใช้มีดจี้ตัวประกันชิงทอง ทำแผน หลั่งน้ำตาก้มกราบเท้าขอโทษเจ้าของร้านทอง
"กำนัน-ชาวบ้าน" ร่วมใจรณรงค์ต่อต้านการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ก่อนการเลือกตั้ง "นายก อบต.นาโพธิ์" วันที่ 21 ก.ย.นี้
หนุ่มเดือด! พลั้งมือทำร้ายแฟนสาวคาห้องนอน เหตุโมโหถูกแอบเอาโทรศัพท์ไปเล่นพนันออนไลน์จนหมดตัว
ททท.เชิญชวน เปิดประสบการณ์ใหม่ สุดฟิน ท่ามกลางท้องฟ้า และดวงดาวสุดตระการตา Dark Sky At Khao Yai 2025 หนึ่งในกิจกรรมเขาใหญ่คาร์ฟรีเดย์ 20-22 ก.ย.
"ดีอี" เตือนข่าวปลอม “รัฐเตรียมจ่ายเงินดิจิทัล 10,000 บ.ในเดือนก.ย.” สร้างความเข้าใจผิด สับสนในสังคม
"กรมอุตุฯ" เตือน 43 จังหวัด รับมือฝนตกหนัก กทม.โดนด้วย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​