วันที่ 24 ก.ค. 2564 น.ส.ภาริดา พลมาศ อายุ 58ปี ได้นำเข้าร้องเรียนกับศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราชพร้อมนำภาพคลิปจากกล้องวงจรปิดมามอบให้กับผู้สื่อข่าวเป็นหลักฐาน พร้อมเปิดเผยถึงเหตุการณ์คนร้ายลักต้นไม้ “ครีบปลาวาฬด่าง” เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 23.00น.เศษของวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา หน้าบ้านเลขที่ 151/6 ถนนพะเนียด ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งภาพคลิปจากกล้องวงจรปิดจะเห็นว่ามีรถยนต์กระบะ4ประตูไม่ทราบสีและยี่ห้อและทะเบียน ได้ขับมามาจอดเลยพ้นไปห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ50เมตร จากนั้นคนขับเป็นชายอายุประมาณ 30-35ปี ได้เปิดประตูลงจากรถแล้วเดินย้อนกลับมาที่หน้าบ้านที่เกิดเหตุพร้อมทั้งทำการถอนต้นไม้”ครีบปลาวาฬด่าง”ขนาดใหญ่ ออกจากกระถางหน้าบ้านแล้วอุ้มต้นครีบปลาวาฬด่างวิ่งโกยอ้าวไปขึ้นรถยนต์ขับหลบหนีหายไปทางสี่แยกตลาดแขกอย่างรวดเร็วทันที
น.ส.ภาริดา พลมาศ เจ้าของต้นไม้กล่าวว่า ตนมีความรักต้นไม้พันธุ์นี้มาก ได้นำปลูกใส่กระถางหน้าบ้านร่วมกับต้นไม้พันธุ์ชนิดอื่น ๆ มานานกว่า 1ปีตั้งแต่มีเพียงใบเดียวจนปัจจุบันมีใบงอดออกมาอย่างสวยงามหลายใบ ที่สำคัญลักษณะแต่ละใบจะมีลักษณะด่างสวยงามมากทีเดียว ส่วนราคาก็ประเมินค่าไม่ได้ ตอนนั้นซื้อมาใหม่ๆราคาแค่ 500 บาท แต่ราคาตอนนี้น่าจะราคาหลักหลายพันบาททีเดียว คนร้ายได้ก่อเหตุเกือบเที่ยงคืนที่ผ่านมา ตนตื่นมาตอนเช้ามืดวันรุ่งขึ้นออกมาดูหน้าบ้านพบว่าต้น”ครีบปลาวาฬด่าง”ได้ถูกคนร้ายถอดลักไปเสียแล้ว จึงไปขอดูกล้องวงจรปิดจากจากบ้านตรงข้ามก็ทราบว่าคนร้ายเป็นผู้ชายขับรถยนต์กระบะน่าจะเป็นคนมีฐานะดี และเชื่อว่าคนร้ายต้องมีความรู้เรื่องพันธุ์ไม้ต่าง ๆ อย่างดีจึงรู้ว่าต้นที่ลักขโมยไปเป็นพันธุ์ไม้ที่หายาก แต่ไม่รู้คนร้ายจะเอาไปขายต่อหรือเอาไปเก็บรักษาเองที่บ้าน ซึ่งตนไม่ติดใจอะไรไม่ได้แจ้งความอะไร แต่อยากให้คนร้ายที่ลักต้นไม้ต้นนี้ของตนไปอยากให้เอามาคืนตอนไหนก็ได้ตนจะไม่เอาเรื่อง
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไอทีและเทคโนโลยีของตำรวจหน่วยงานหนึ่งที่เป็นเพื่อนของผู้สื่อข่าวทราบแล้วว่ารถคันดังกล่าวยี่ห้อ สีทะเบียนและเจ้าของซึ่งสวามารถแจ้งความเอาผิดและติดตามจับกุทมตัวได้ทันที แต่ทาง น.ส.ภาริดา พลมาศ ยืนยันว่าจะยังไม่แจ้งความและเปิดโฮกาสให้คนร้ายรายนี้มีสำนึกนำต้นไม้“ครีบปลาวาฬด่าง” ต้นดังกล่าวมาคืนด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง หากเวลาผ่านพ้นไปพอสมควรก็จะแจ้งความดำเนินคดีเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยวอย่างต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่าในช่วงนี้กระแสผู้คนเห่อนิยมหาต้นไม้ชนิดต่าง ๆที่มีใบด่างมาเก็บรักษาไว้จำนวนมากและมีการนำไปขายในราคาแพงด้วย จึงอยากให้ผู้ที่รักต้นไม้และมีต้นไม้ใบด่างให้ระมัดระวังเก็บรักษาไว้ให้ดีด้วย.
ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช
