เมื่อวานนี้ เงินปอนด์อังกฤษร่วงลง 4.85 เปอร์เซ็นต์ สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0327 ดอลลาร์ต่อปอนด์ ซึ่งค่าเงินร่วงลงต่อจากวันศุกร์ที่ระดับ 3.61 เปอร์เซ็นต์ โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า สาเหตุของค่าเงินที่ลดลงในครั้งนี้เกิดจาก การประกาศแผนของนายกวาซี กวาเต็ง รัฐมนตรีกระทรวงการคลังคนใหม่ ที่จะดำเนินนโยบายลดภาษีอย่างมาก และเพิ่มการกู้ยืมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 50 ปี เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่อังกฤษกำลังเผชิญ
นายเดวิด แมดเดน นักวิเคราะห์ตลาดของบริษัท อิควิไท แคปิตอล กล่าวกับเดอะการ์เดียนว่า ปอนด์สเตอร์ลิงถูกเทขายอย่างหนัก เนื่องจากผู้ค้าหันหลังให้กับสินทรัพย์ต่างๆของอังกฤษ เนื่องจากเกิดความกังวล ถึงนโยบายการกู้เงินของรัฐบาล ซึ่งจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจของอังกฤษนั้นเลวร้ายลง
โดยนโยบายของนายกวาเต็งนั้น ถูกมองว่าเป็นอันตรายต่อความน่าเชื่อถือทางการเงินของรัฐบาล ค่าเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงทำให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในระยะกลาง นักวิเคราะห์หลายคนเห็นว่า มาตรการลดภาษีของรัฐบาลจะไม่ได้ผล เนื่องจากประชาชนชาวอังกฤษ จะต้องนำเงินไปจ่ายค่าพลังงานที่สูงขึ้น รวมทั้งต้นทุนการจดจำนอง และการกู้ยืมที่สูงขึ้นแทน
นอกจากนี้นักเศรษฐศาสตร์ยังคาดการณ์ว่า ค่าเงินปอนด์ที่ร่วงลง อาจทำให้ธนาคารกลางอังกฤษจำต้องประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน อีกทั้งคาดว่าอัตราดอกเบี้ยอังกฤษจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า สู่ระดับที่มากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ภายในฤดูร้อนหน้า