“แม่ทัพภาคที่ 2” รับยังต้องเฝ้าระวัง ทหารกัมพูชาไม่ได้ถอย แค่ปรับกำลังชายแดน ชี้ปมฟ้องศาลโลก เป็นเรื่องของรัฐบาล
ข่าวที่น่าสนใจ
จากกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานข่าวจากการเจรจากันของไทยและกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายในทุกระดับ สรุปตรงกันว่า ขณะนี้กองกำลังของทั้ง 2 ฝ่าย(ไทย -กัมพูชา)ได้ออกตรวจแนวพื้นที่ร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายพยายามหาวิธีการในการลดความขัดแย้ง และการเผชิญหน้า ซึ่งทำให้สถานการณ์ในพื้นที่เป็นไปในทางที่ดีมากขึ้น
ในนามของกระทรวงกลาโหมและกองทัพไทย ขอขอบคุณรัฐบาลกัมพูชาโดยเฉพาะอย่างยิ่งกองกำลังส่วนหน้าของกองทัพกัมพูชา ที่ได้ร่วมกันเจรจาและช่วยคลี่คลายสถานการณ์ไปในทางที่ดี เป็นไปตามหลักการที่ยึดสันติเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองฝ่าย ความคืบหน้าขณะนี้ กองกำลังสองฝ่ายได้มีการออกสำรวจพื้นที่และแนวคูเรดร่วมกัน และได้มีการกลบฝังพื้นที่ตามข้อตกลงร่วมกัน พร้อมกับมีการปรับกำลังของทั้งสองฝ่ายไปอยู่ในแนวพื้นที่ที่ได้ตกลงกันไว้ในช่วงสถานการณ์ปกติเมื่อปี 2567 เรียบร้อยแล้ว เราทั้ง 2 ฝ่ายคาดหวังจะให้วิถีทางการแก้ปัญหาผ่านกลไก JBC ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 เป็นการคลี่คลายปัญหาของทั้งสองประเทศอย่างสันติ กระทรวงกลาโหม ขอขอบคุณกองกำลังฝ่ายไทย แม่ทัพภาค 2 และกองทัพบก ที่อดทนอดกลั้นต่อสถานการณ์และยึดสันติวิธีเป็นที่ตั้ง จากนี้ไป ขอความร่วมมือให้ประชาชนทุกฝ่ายระมัดระวังการให้ข้อมูลข่าวสาร เพื่อไม่นำไปสู่สถานการณ์ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งใหม่มากยิ่งขึ้น
ล่าสุดวันนี้ (9 มิ.ย.) รายการจับตาประเทศไทย ทางช่อง Top News ดำเนินรายการโดย คุณสำราญ รอดเพชร และคุณอุบลรัตน์ เถาว์น้อย ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.20-12.05 น. ได้สัมภาษณ์พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ถึงประเด็นดังกล่าว ว่ากัมพูชายอมถอยจริงหรือไม่ และเบื้องหลังการเจรจาเป็นมาอย่างไร
โดยทางด้าน แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า มีการเจรจากันมาเบื้องต้นบ้างแล้ว ตั้งแต่ที่รัฐมนตรีกลาโหมไปคุยกับกัมพูชา ต่อมาก็เป็นกองกำลังสุรนารี เจรจากับทหารที่ประจำการยังพื้นที่ มีการปูทางมาบ้างแล้ว จนในที่สุด เขายอมถอย
เมื่อถามว่า กัมพูชายอมถอยจริงหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า อย่าเพิ่งใช้คำว่าถอย แค่ปรับวางกำลังใหม่ จะบอกว่าถอย ก็ไม่ใช่ เพราะเขายังไม่ได้ถอยตามแนวชายแดนเลย เรียกว่ายังเฝ้าระวังต่อไป แต่อยู่ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ตรึงเครียดเท่าช่องบกแล้ว ที่เรามีการเผชิญหน้ากัน ช่องบกล่อแหลมว่าจุดอื่น เลยคุยกันว่า เรามาปรับแนวทางกันดีกว่า เพื่อลดความตรึงเครียด ตอนนี้มีการปรับเฉพาะพื้นที่ช่องบกก่อน รอประชุมเวทีเจรจา แล้วค่อยหารือขยับไปจุดอื่น ๆ เพิ่มไป ส่วนคูเลตเขาปิดกลบเรียบร้อย ไปดูรวมทั้งกัน มีสีกขีพยานร่วมกัน จุดที่เคยขุดไว้ 150-200 เมตร อันนี้อยู่ในความดูแลของกองทัพภาคที่ 2 ก็ต้องตรวจสอบ
พอกลบเสร็จ ทหารกัมพูชาต้องขยับออกไป แยกย้ายกันไป ว่าใครอยู่ตรงไหน ก็ตรงนั้น ยึดหลักตามปี 67 ส่วนกรณีที่จะหารือเรื่อง 4 จุดพิพาท แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ให้เป็นส่วนของนายกรัฐมนตรีและฝ่ายกลาโหมตอบดีกว่า เพราะการเจรจาที่จบลงล่าสุด เราก็จะยึดหลักปฏิบัติเข้มงวดเหมือนเดิมก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น