จากกรณีวานนี้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้จะเข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอาคารที่พักรีสอร์ท 5 แห่ง ในพื้นที่ม่อนแจ่ม แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย หลังสวนโฮมสเตย์, ม่อนดาวเรือง, ม่อนดูดาว, ม่อนแสงระวี และแสงเหนือแคมป์ปิ้ง แต่ถูกมวลชนซึ่งเป็นชาวบ้านนับพันคน มาปิดกั้นขวางทางไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอาคารที่พักรีสอร์ท 5 แห่ง โดยอ้างต้องรอคำสั่งศาล ขณะที่เจ้าหน้าได้ชี้แจงว่าเป็นคนละส่วน และยืนยันทำตามกฎหมาย แต่การเจรจาไม่เป็นผล ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยอมยุติปฏิบัติการลงชั่วคราว
ข่าวที่น่าสนใจ
สำหรับรีสอร์ททั้ง 5 แห่ง พบว่าอยู่ในรายชื่อ 30 รีสอร์ทพื้นที่ม่อนแจ่ม ที่กรมป่าได้แจ้งความดำเนินคดีและต้องรื้อถอน มาตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากมีการใช้พื้นที่ผิดวัตถุประสงค์ เพราะพื้นที่ม่อนแจ่มเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริมของกรมป่าไม้ ซึ่งโครงการหลวงหนองหอย ได้มีการมาขอเช่าพื้นที่จากกรมป่าไม้ เพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่ทำการเกษตร แต่กลับมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่สร้างรีสอร์ทและบ้านพักเพื่อบริการนักท่องเที่ยว ซึ่งไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการหลวง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีเปลี่ยนมือเจ้าของหรือมีการขายกิจการให้นายทุนต่างชาติ ก่อนจะใช้ชื่อนอมินีดำเนินการ
โดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 (2) บัญญัติว่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดินก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่าหรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ เว้นแต่ทำไม้หรือเก็บหาของป่า ซึ่งได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 5 พันบาทถึง 5 หมื่นบาท
ขณะที่การเข้ารื้อถอนของเจ้าหน้าที่ ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 25 ของพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ ที่ให้อำนาจเจ้าหน้าหน้าที่สั่งให้ผู้หนึ่งผู้ใดออกจากป่าสงวนแห่งชาติ หรือให้งดเว้นการกระทำใดๆ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และสามารถทำลาย รื้อถอน เมื่อผู้กระทำผิดไม่รื้อถอนภายในเวลาที่กำหนด และให้ผู้กระทำผิดรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนทั้งหมดด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
