วันที่ 13 กรกฎาคม 2564เวลา 13.00 น. ที่อาคารกิจกรรมนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี ถ.ศรีสุข เทศบาลนครอุดรธานี โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี นัดให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีน ตกค้างมาตั้งแต่มิถุนายน 2564 มาฉีดวัคซีนของ “แอสตาเซนเนก้า” 1,600 คน แต่มีผู้สูงอายุมารอก่อนเวลา ขณะส่วนใหญ่มีลูกหลานมาดูแล จนเกิดการแออัดในช่วงแรก นอกจากนี้ยังมีผู้สูงอายุบางส่วน ไม่ได้อยู่ในรายชื่อนัดหมายเดินทางมาด้วย
ผู้สูงอายุต้องตรวจสอบผ่านไอดีในไลน์ของ รพ.ศูนย์อุดรธานี ตามรายชื่อมีนัดหมายเท่านั้นไม่เปิดให้มีการ “วอคอิน” โดยแยกออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก สามารถช่วยเหลือตัวเองได้จะให้ผ่านตามเส้นทางปกติที่จะเคลื่อนผ่านขั้นตอน คัดกรอง-ตรวจสอบประวัติ-ตรวจร่างกาย-ฉีดวัคซีน-พักคอย และกลุ่มที่สองที่ใช้วิลแชร์ที่นำมาเอง และที่จัดเตรียมไว้ให้ หรืออุปกรณ์พยุงช่วยเดินที่มีญาติพี่น้องบุตรหลานมาเป็นพี่เลี้ยงจะนำผู้สูงอายุเข้าช่องทางพิเศษเข้าไปอยู่ในจุดพักคอยจะมีบุคลากรทางการแพทย์มาตรวจร่างกาย-ฉีดวัคซีน-พักคอยในบริเวณเดียวกัน
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ตอบข้อซักถามว่า วันนี้มีผู้สูงอายุมาเกินคาดหมายจากเดิมนัดมาฉีดจะมาไม่ครบต้องขยายวันฉีดออกไปอีก โดยอีกทั้งวันนี้มีลูกหลานมาดูแลมาก ทำให้หนาแน่นบ้างช่วงแรกจะพยายามฉีดให้ทุกคนที่เดินทางมา ทั้งนี้การฉีดวัคซีนของอุดรธานี เมื่อได้รับการจัดสรรคมาก็จะเร่งฉีดให้เร็วที่สุดไม่ต้องการให้วัคซีนตกค้างอยู่ ซึ่งในเดือนนี้ได้รับแจ้งจัดสรรมา 1 แสนโดส โดยล็อตแรกจะฉีดในสัปดาห์นี้
ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ชี้แจงต่อว่า วันนี้เป็นวันแรกของอุดรธานี จะไปรับลูกหลานของเรากลับบ้าน เที่ยวแรกนำทีมโดยนายนพดล มามาก ปลัด จ.อุดรธานี หลังจากแจ้งเมื่อวันอาทิตย์ให้ชาวอุดรธานีที่จะกลับบ้าน เพราะเกิดปัญหากับโควิด-19 ทั้งที่ตรวจพบเชื้อหรือยังไม่ได้ตรวจ แจ้งความต้องการมาที่ศูนย์ฯประจำอำเภอ ตามหมายเลขโทรฯที่แจ้งไปแล้ว ก็เริ่มมีการโทรมานัดหมาย เที่ยวแรกนัดส่งรถไปรับ 2 คันๆละ 30 คน รวมเดินทางมาได้ 60 คน แยกเป็นรถที่มีความเสี่ยงสูง และรถที่มี่ความเสี่ยงต่ำ มาถึงเช้าพรุ่งนี้ตรวจหาเชื้อ พบนำเข้า รพ.ทันทีไม่พบต้องกักตัวต่อ 14 วัน
สถานการณ์โควิด-19 พื้นที่อุดรธานี ค้นพบผู้ติดเชื้อและป่วยเพิ่ม 42 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่อุดรฯ 6 ราย เป็นผู้ติดเชื้อมาจากพื้นที่เสี่ยง 36 ราย (รู้ตัวติดเชื้อก่อนเดินทางมา 5 ราย) ติดเชื้อจาก สะสม 1,358 ราย กลับบ้านแล้ว 671 ราย รักษาอยู่ 672 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 สะสม 15 ราย สำหรับการกักตัวมาจากพื้นที่เสี่ยง สะสม 5,444 คน เหลือ 4,448 คน อยู่ใน Home Quarantine 2,771 คน Local Quarantine 1,677 คน เหลือเตียง Local Quarantine 1,457 เตียง
ผู้เสียชีวิตรายที่ 15 เป็นหญิง อายุ 76 ปี ชาวบ้านดอนอุดม ต.นาบัว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี มีโรคประจำตัวคือ โรคเบาหวาน ความดัน โรคไต และติดเตียง ลูกสาวพาไปดูแลในกรุงเทพฯ โดยลูกสาวทำงานในไซต์ก่อสร้างแห่งหนึ่ง เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ไซด์งานปิดตัดสินใจกลับบ้าน ก่อนกลับไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ขับรถส่วนตัวกลับมาพร้อมแม่ ระหว่างทางรับแจ้งทางโทรศัพท์ติดโควิด-19 จึงพาแม่แวะ รพ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด แม่ถูกส่งตัวมารักษาตัวยัง รพ.ศูนย์อุดรธานี 10 ก.ค.64 ส่วนลูกสาวถูกส่งไปรักษาที่ ศูนย์แคร์ หรือ รพ.สนาม (มรภ.อุดรธานี ศูนย์สามพร้าว) และแม่เสียชีวิต 04.00 น.ของวันที่ 13 ก.ค.64
ภาพ/ข่าว กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.อุดรธานี