No data was found

“อัจฉริยะ” ร้องกมธ.สิทธิมนุษยชนฯ ประสานก.ยุติธรรม–ดีเอสไอ ตรวจสอบคราบเลือดแตงโม

กดติดตาม TOP NEWS

"อัจฉริยะ" โร่ร้องกมธ.สิทธิมนุษยชนฯ ประสานก.ยุติธรรม –ดีเอสไอ ตรวจสอบคราบเลือดแตงโมบนเรือใหม่ ระบุเดินหน้าปฏิบัติการโดรนใต้น้ำค้นหามีดในเจ้าพระยา จ่อทยอยเปิดคลิปแฉ "ไป 6 กลับ 5"

วันที่ 23 พ.ค. 65 ที่รัฐสภา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมายื่นหนังสือถึงกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เพื่อขอให้ช่วยประสานนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม หรืออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ไปตรวจคราบเลือดเรือลำที่เกิดเหตุใหม่ เนื่องจากมีหลักฐานสำคัญที่เชื่อว่าถ้าตรวจสอบใหม่อีกครั้งจะพบคราบเลือดของน.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม

เมื่อถามว่า หลักฐานสำคัญคืออะไร นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ที่นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม ให้สัมภาษณ์ว่าเขากลับคุณแม่มีหลักฐานมาแล้วว่าแตงโมถูกทำร้ายร่างกายบนเรือ ในฐานะทนายความเมื่อทราบแล้วถามว่าทำไมไม่คุยกับตำรวจว่าคดีนี้ไม่ใช่การประมาท แต่เป็นคดีที่มีการทำร้ายร่างกายกัน และมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน ทำไมถึงไม่ทำหน้าที่ทนายความที่ดี ทำไมต้องให้ตนมาเปิด สิ่งที่กำลังทำอยู่ขณะนี้ยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกหลายขั้นตอน เช่นการจะนำหลักฐานไปมัดผู้ต้องหาทั้งหมด ต้องเจอคราบเลือด มีด และอื่นๆ หรือเจอวัตถุพยานที่สำคัญที่จะมัดตัว ซึ่งภาพกับคลิปเรามีอยู่แล้ว เพียงแต่เราจะมัดเขาอย่างไร เพราะเดี๋ยวเขาก็อ้างว่าเป็นภาพตัดต่อก็ได้ นอกจากนี้ในสัปดาห์นี้เราจะมีปฏิบัติการโดรนใต้น้ำ โดยจะเริ่มตั้งแต่สะพานซังฮี้ไปถึงสะพานพระราม 8 เพื่อหาวัตถุพยานคือมีด ส่วนเรื่องคลิปคาดว่าพรุ่งนี้น่าจะมีการเปิดเผยออกมาบ้าง โดยใช้หัวข้อว่าไป 6 กลับ 5 ซึ่งสิ่งที่เรากำลังจะเปิดกับตำรวจมันคนละเรื่องเลย วันนี้เราไม่ได้มาส่งหลักฐานให้กมธ. แต่แค่มายื่นเรื่องให้ช่วยประสานกับดีเอสไอ เพื่อขอให้ตรวจสอบเรื่องคราบเลือดบนเรือเท่านั้น ซึ่งจะพิสูจน์ได้ว่าหากวันนี้ดีเอสไอไม่ยอมไปตรวจคราบเลือดให้เรา หมายความว่าเขาก็ไม่รับเราเป็นคดีพิเศษอยู่แล้ว โดยเราได้ยื่นหนังสือกล่าวโทษไปแล้วว่าคนบนเรือฆาตกรรมอำพราง มันก็จะได้วัดกันไปเลย เพราะตนไม่เชื่ออยู่แล้วว่าไม่มีคราบเลือด ตนเชื่อว่ามี เพราะ 1 ใน5 คนบนเรือได้มีการบอกเราอยู่แล้วที่มีการมาเจอกันว่าเลือดอยู่ตรงไหน ดังนั้นถ้ามีการตรวจคราบเลือดใหม่ตนเชื่อว่าถึงแม้เรือจะตากแดดตากฝน หรือใช้น้ำยาล้างก็น่าจะมีหลงเหลืออยู่

เมื่อถามว่า คลิปที่จะเปิดนั้นบอกได้เลยหรือไม่ว่าเป็นการฆาตกรรมอำพราง นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนเอาแค่ว่าไป 6 กลับ 5 และช่วงเวลาที่ตกเรือก็ไม่ใช่เวลาที่ตำรวจพูด แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว อย่างน้อยก็ทำให้ตำรวจที่มาแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 เม.ย. ก็เป็นเฟคนิวส์ทั้งนั้น ไม่ได้เกิดจากเรื่องจริง แต่เป็นเรื่องมโน โดยใช้นิติไสยศาสตร์ ไม่ใช่นิติวิทยาศาสตร์ และที่อ้างว่ามีผู้เชี่ยวชาญทางภาพ ตนก็จะเปิดหลักฐานให้ดูแล้วว่าคนที่ทำภาพก็มาเรียนกับตน

เมื่อถามว่าคลิปนี้ไม่ได้อยู่ในสำนวนของตำรวจแล้วใช่หรือไม่ นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ความจริงตำรวจเห็นอยู่แล้ว แต่เขาไม่ทำให้ตรงไปตรงมา วันนี้ตนยังยืนยันว่าตำรวจภาค 1 ไม่ทำอย่างตรงไปตรงมา แต่ไม่ได้เกิดการทุจริตในการรับเงินรับทอง แต่เนื่องจากไม่ทำอย่างตรงไปตรงมา หรืออาจจะเพราะเขาฝีมือไม่ถึงก็ได้ ซึ่งตนยังมองไม่ออก แต่ในส่วนของเรามีหน้าที่พิสูจน์ความจริงว่าสิ่งที่คนบนเรือพูดไม่มีความน่าเชื่อถือ และเป็นเรื่องของการให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน เราจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเมื่อคน 1 ใน 5 จะพูดออกมาแล้ว โดยเราจะทำให้ทุกคนเห็นที่ละชิ้นๆ แต่คงใช้เวลาไม่นาน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อถามว่าหากดีเอสไอไม่รับเป็นคดีพิเศษจะเดินหน้าอย่างไร นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนไม่รู้ แต่อย่าเพิ่งไปคาดเดา เพราะตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบผู้เชี่ยวชาญของเราจำนวน 2 ปาก แต่ยังมีผู้เชี่ยวชาญอีกมากมายที่ยังไม่ได้ถูกสอบ ถ้าเขายอมไปตรวจคราบเลือดให้เราก็จะแสดงให้เห็นถึงความจริงใจที่เขาต้องการทำคดีให้เรา ถ้าดีเอสไอไม่รับตรวจเรือแล้วคุณจะมาสอบเราทำไม ถ้าเขาจริงใจต้องไปทำ ถ้าเขาไม่จริงใจรับคดีเรา ถ้าเขาไม่ทำ 99.9% แสดงว่าอธิบดีดีเอสไอเกรงใจตำรวจ

เมื่อถามว่า ตอนนี้แม่ของแตงโมเริ่มเชื่อแล้วว่าเป็นการฆาตกรรม นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนยังไม่อยากให้คุณแม่เชื่อตนขนาดนั้น เพราะเดี๋ยวจะไปกระทบจิตใจคนอื่นอีก แต่ตนมีหน้าที่พิสูจน์ความจริงให้คนอื่นได้เห็น ส่วนทนายความก็ควรทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ใช่ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่ารู้แล้วว่ามีภาพและคลิปที่มีการซ้อมแตงโม แล้วทำไมไม่คุยกับตำรวจ หรือมอบให้อัยการ โดยมีสาเหตุจูงใจมาจากการทะเลาะเบาะแว้งกัน ซึ่งเป็นมูลเหตุจูงใจอยู่แล้วว่าเหตุผลนี้ทำให้มีการฆาตกรรมอำพรางได้ นั่นคือหน้าที่ของทนายความที่ดี ไม่ใช่มาเห่าหอนทุกวันโดยไม่ทำหน้าที่ของทนายความ

เมื่อถามถึงกรณีที่มีภาพแตงโมเปิดเผยในเฟซบุ๊กช่วงที่ผ่านมา นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ภาพล่าสุดที่ถูกทำร้ายเป็นภาพเก่า ไม่ใช่ภาพวันเกิดเหตุ ส่วนภาพที่มีผู้หญิงสองคนนั่งในเรือก็เป็นภาพตัดต่อที่ไม่น่าเชื่อถือส่วนที่มีการเชื่อมโยงว่าตนเกี่ยวข้องกับบังแจ็คนั้น นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มเลอะเทอะ ที่จะมีแอคเค้าท์ต้องถามคุณแม่ ซึ่งคุณแม่บอกว่ามี 3 คน ไม่เกี่ยวกับตนอยู่แล้ว ตนยังไม่เคยเจอและพูดคุยกับคุณแม่เลย แล้วเขาจะเอาแอคเค้าท์มาให้ตนได้อย่างไร บังแจ็คไม่มีราคาสำหรับตน และเป็น 18 มงกุฎ ตนจะไปคบคนแบบนั้นได้อย่างไร ถ้าตนจะทำตนเปิดเองดีกว่า เพราะไม่ได้ผิดกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งตนเปิดได้ดีกว่าคนที่เปิดอีก ตนมีเครดิตและมีคนเชื่อถือมากกว่าบังแจ็คอีก เมื่อถามต่อว่า เชื่อว่าเป็นการเปิดเผยโดยใคร นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าคนที่เปิดเป็นคนดี แต่ไม่ใช่บังแจ็ค เป็นคนดีที่อยู่ในประเทศไทย และเปิดเผยในประเทศไทย ไม่ใช่ต่างประเทศ ยืนยันว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้องที่เปิด โดยประสบการณ์ของตน 10ปี ที่เคยมีคลิปแบบนี้คนไหนที่ได้คลิปและรูปไป คนนั้นย่อมมีแอคเค้าท์และสามารถมาเล่นอะไรก็ได้ในช่วงนี้ เพราะเขาก็เป็นคนที่ไม่ได้รับความยุติธรรม แต่อย่าลืมว่ามีคน 3 คนที่เข้าถึงแอคเค้าท์นี้ ซึ่งก็ยังไม่รู้ เพราะอีกคนหนึ่งอยู่ต่างประเทศ ส่วนอีกสองคนอยู่ในประเทศไทย แต่ตนไม่มองว่า 3 คนนั้นเป็นคนปล่อยภาพ เพราะไม่มีเหตุผล แต่คนที่มั่นใจที่สุดคือคนในวงการเจ้าหน้าที่รัฐ

เมื่อถามว่าอีกไม่กี่วันอัยการจะสรุปสำนวนอีกครั้ง นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เขายังไม่สั่งฟ้องในวันที่ 27 พ.ค. ตามที่นายเดชาพูด เพราะเขาต้องทำให้ละเอียดรอบคอบ ถ้าเกิดอีก 2 วันมีภาพออกมาว่ามีการทำร้ายร่างกายแล้วจะบอกว่าเป็นการประมาทได้อย่างไร โดยอัยการยังมีเวลาอีก 24 วัน หากจะส่งฟ้องวันสุดท้ายก็ยังทัน ดังนั้นไม่ต้องรีบ ตนเชื่อว่าอัยการนนทบุรีเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบและทำคดีนี้ให้ดีที่สุดในชีวิต เพราะเป็นคดีประวัติศาสตร์ คงไม่นำชื่อเสียงมาแลกกับเรื่องแบบนี้ ทั้งนี้ตนบอกเลยว่าคดีนี้เขาสู้แน่นอน เขาไม่ยอมรับสารภาพ แม่อาจจะไม่ได้เงินในคดีนี้ เพราะมีเหตุสงสัยเยอะในคดีประมาท เรือลำเดียวกัน ประมาททั้ง 5 คนนั้นเป็นไปไม่ได้ ถามว่านายจ็อบประมาทอย่างไร เพราะเป็นแค่คนชงเหล้าแล้วนั่งดู ความจริงตนสงสารครอบครัวนายจ็อบ เพราะเขาเป็นเพียงลูกจ้างคนหนึ่งที่ไปอยู่ในเรือ และไม่รู้อิโหน่อิเหน่และต้องมานั่งทนเหตุภาพต่างๆ ตนยังยืนยันว่าควรจะไปคุยกับครอบครัวให้ดี เพราะวันนี้เราเป็นจำเลย แต่ยังกลับมาเป็นพยานได้ สิ่งที่เกิดขึ้นบนเรือคนนั่งอยู่ข้างหน้าเห็นใครทำร้ายแตงโม

 

เมื่อถามว่า ใกล้ถึงวันฌาปนกิจของแตงโมแล้ว จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกหรือไม่ นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ผลของนิติเวชครั้งแรกตนไม่เชื่อ เพราะเป็นการนำวัตถุปนเปื้อนมาทำ และไม่เคยมีใครในโลกและประเทศไทยที่หมอคนไหนเอาใบพัดเรือที่มีสารปนเปื้อน ไปทำกับขาแตงโมและบาดแผลจุดต่างๆก็มีความแปลก การเปลี่ยนแปลงสภาพจากผลตรวจเบื้องต้นของสถาบันนิติวิทยาศาตร์ กระทรวงยุติธรรมมาที่โรงพยาบาลตำรวจ อยู่ในการควบคุมของคนมีสี ฉะนั้นความน่าเชื่อถือของบาดแผลด้านขวาเป็นเฟคนิวส์อยู่แล้วที่นำมายืนยันว่าเกิดจากใบพัดเรือ ตนทราบอยู่แล้วว่าคุณไปทำอะไรต่างๆ ดังนั้นจึงไม่มีความน่าเชื่อถือตั้งแต่แรก อีกทั้งการที่ไปตรวจร่ายกายคนบนเรือทั้งที่มีบาดแผลแต่กลับไม่ตรวจสอบให้สิ้นสงสัยว่าเกิดจากอะไร ทั้งที่คุณเป็นหมอนิติเวช

ด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ระบบวุฒิสภา เพื่อลงเลขรับว่ามีการยื่นเรื่องซ้ำซ้อนหรือไม่และจะพิจารณาในการประชุมครั้งถัดไป ส่วนการดำเนินการมากน้อยเพียงใดนั้น กมธ.จะยึดตามหลักกฎหมาย หน้าที่ของกมธ. และรัฐธรรมนูญ รวมถึงยึดหลักความถูกต้องเป็นธรรม โดยจะไม่แทรกแซงก้าวก่าย เมื่อมีคนร้องมาก็จะดูว่าเราสามารถส่งไปให้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้หรือไม่ กมธ.ไม่ได้มีหน้าที่ไปสั่งการ แต่มีหน้าที่ในการประสาน ซึ่งจะได้ผลเป็นอย่างไรจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ปาเลสไตน์ ผู้นำลั่น สหรัฐคือผู้ที่หยุดอิสราเอลได้
ยูเครน ผู้นำบิดเบือนข้อมูลสูญเสียทางทหาร
หนุ่มดวงซวย ขึ้นเขาหาของป่าถูกปืนดักสัตว์ยิงเข้ากลางลำตัวทะลุ
คณะทำงานนายกฯ ติง "ปานปรีย์" ยื่นลาออกหลังโปรดเกล้าฯรมว.ต่างประเทศ เผยหารือก่อนหน้าไม่ปฏิเสธ
"ภูมิธรรม" รับเพิ่งทราบ "ปานปรีย์" ลาออกรมว.ต่างประเทศ เชื่อการทำงานไม่สะดุด ไม่กระทบเพื่อไทย
สลด ผู้สูงอายุ วัย 65 ปี เสียชีวิตปริศนากับพื้นปูนคอนกรีตตรวจสอบยังพบว่าผิวหนังลอกออกคาดเกิดจากสาเหตุอากาศร้อน
ชาวบ้านร้องเรียน น้ำเสียทะลักขึ้นจากพื้น ส่งกลิ่นเหม็น อวด นทท.
รู้จัก "จิราพร" รมต.ป้ายแดง DNA "สินธุไพร" อดีต สส.เสื้อแดง ผลงานแน่นไม่แพ้ใคร
"ครอบครัว" สุดเศร้าไร้ปาฎิหาริย์ ร่วมรับร่าง "ดาบตาร์" กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด
"Thailand Biennale" Chiang Rai 2023 ฉลองความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ จัดพิธีมอบธงสัญลักษณ์ให้ จ.ภูเก็ต เจ้าภาพจัดงานในปี 2025

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น