No data was found

ส.ว.ผ่านพ.ร.ก.ลดดอกเบี้ยผิดนัด

กดติดตาม TOP NEWS

รัฐสภา 7 มิ.ย.- วุฒิสภาให้ความเห็นชอบ พ.ร.ก.ลดดอกเบี้ยผิดนัดด้วยคะแนน 201 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง เชื่อรัฐบาลมีเจตนาดี แต่ยังพบช่องว่าง หวั่นเจ้าหนี้เรียกเก็บดอกเบี้ยสูงเกินอัตราใหม่ เสนอแก้ไขเพิ่มเติมประเภทสัญญา

ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 3 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ. 2564 หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรได้อนุมัติพ.ร.ก.ดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวชี้แจงหลักการและเหตุผล ว่า มาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ กำหนดแนวนโยบายของรัฐให้มีกฎหมายเท่าที่จำเป็น ยกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายที่ไม่มีความจำเป็นและไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์หรือเป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตหรือการประกอบอาชีพโดยไม่ชักช้า เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อประชาชน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยในกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานานกว่า 95 ปี รวมถึงอัตราดอกเบี้ยคงที่ ที่กำหนดไว้ร้อยละ 7.5 ต่อปี เป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในธนาคารพาณิชย์ปัจจุบัน ทำให้ลูกหนี้ได้รับความเดือดร้อนและส่งผลต่อประวิงเวลาฟ้องคดีของเจ้าหน้าที่ เพื่อหาประโยชน์ ความไม่เหมาะสมของกฎหมาย และขณะนี้ประเทศกำลังประสบกับปัญหาวิกฤตไวรัสโควิด-19 โดยประชาชนจะได้รับประโยชน์จากกฎหมายที่สอดคล้องกับสภาพการณ์และสภาพเศรษฐกิจ รวมถึงให้ลูกหนี้ได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะลูกหนี้เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จึงหวังว่าการแก้ไขกฎหมายนี้จะช่วยลดจำนวนการฟ้องร้องดำเนินคดีระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ รวมถึงลดหนี้เสียต่าง ๆ และรักษาความมั่นคงของเศรษฐกิจของประเทศ

จากนั้นน.ส.ปิยฉัฏฐ์ วันเฉลิม สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะรองโฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และการตำรวจ วุฒิสภา กล่าวนำเสนอผลการศึกษาพ.ร.ก.ว่า การปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ได้ทำนิติกรรมหรือมีกฎหมายกำหนด และการคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดตามที่ปรับปรุงในพ.ร.ก.จะครอบคลุมถึงบทบัญญัติอื่นในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือไม่ เช่นกรณีที่แก้ไขอัตราดอกเบี้ยผิดนัดร้อยละ 3 ต่อปี และมีอัตราเพิ่มร้อยละ 2 รวมเป็นร้อยละ 5 แต่มาตรา 244 วรรคหนึ่งของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กำหนดให้สิทธิ์เจ้าหนี้เรียกดอกเบี้ยสูงกว่าอัตราดังกล่าวหากมีเหตุที่ชอบด้วยกฎหมาย และในกรณีที่มีเหตุที่ชอบด้วยกฎหมาย อาจทำให้การคิดดอกเบี้ยผิดนัดสูงเกินกว่าการปรับอัตราที่แก้ไขในกฎหมาย เช่น มีเหตุที่ทำให้ต้องปรับดอกเบี้ยที่ร้อยละ 10 ต่อปี หากผิดชำระต้องใช้อัตราร้อยละ 5 ต่อปี ดังนั้นหากมีเหตุอื่นจะทำให้ลูกหนี้ต้องชำระดอกเบี้ยตามกำหนดเดิมหรือไม่

“ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 654 กำหนดห้ามเพดานการคิดดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 15 ซึ่งบังคับใช้กว่า 92 ปี และไม่กำหนดรายละเอียดของการปรับดอกเบี้ยผิดนัด ดังนั้นหากจะปรับอัตราดอกเบี้ยควรปรับดอกเบี้ยขั้นสูงดังกล่าวให้สอดคล้องด้วย” น.ส.ปิยฉัฎฐ์ กล่าว

น.ส.ปิยฉัฏฐ์ กล่าวว่า นอกจากนั้นมาตรา 224/1 ในพ.ร.ก.ที่แก้ไข กำหนดว่าหากลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้งวดใด เจ้าหนี้ให้คำนวณดอกเบี้ยผิดนัดเป็นงวด ๆ ซึ่งกรณีดังกล่าวถือว่าไม่กระทบสิทธิของเจ้าหนี้ที่จะร้องขอต่อศาลให้ชำหนี้ของลูกหนี้ทั้งหมดได้ เพราะมีข้อตกลงที่ว่าลูกหนี้ผิดนัดชำระะงวดใดให้สิทธิเจ้าหนี้เรียกเงินงวดทั้งหมดได้ในคราวเดียวกัน แม้จะทำสัญญาประนีประนอมในศาลได้ แต่เมื่อพ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวใช้บังคับ จะถือว่าการผิดนัดงวดเดียว ให้ถือว่าผิดนัดทั้งหมดได้หรือไม่

ขณะที่นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธาน กมธ. การเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา กล่าวว่า เพื่อให้การแก้ไขกฎหมายเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง และในโอกาสต่อไป ควรแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แก้ไขอัตราดอกเบี้ยปกติ เพราะมาตรา 654 หรือพ.ร.บ.เรียกดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน ที่เรียกได้มากกว่าร้อยละ 15 รวมถึงการแก้ไขอัตราดอกเบี้ยอื่น ๆ เช่น สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ และในกลุ่มนอนแบงก์ ควรแก้ไขโดยให้มีเพดานที่เหมาะสมสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำไว้ในระยะเวลาพอสมควร เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ลดการฟ้องร้อง และเกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจ

“การแก้ไขกฎหมาย ให้ความสำคัญต่อการกำหนดอัตราดอกเบี้ยผิดที่ไม่ได้กำหนดไว้ในสัญญา ที่ผ่านมาพบการกำหนดอัตรานัดสูงสุด และเมื่อเข้าสู่ศาล ศาลจะใช้ดุลยพินิจ หากปรับเกินส่วนจะพิจารณาปรับลด แต่ไม่ได้กำหนดไว้ในกฎหมาย ดังนั้นควรกำหนดให้ชัดเจนไว้ในสัญญา รวมถึงกรณีที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงอัตราดอกเบี้ยให้ชัดเจนด้วย” นายวิสุทธิ์ กล่าว

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานกรรมาธิการการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวว่า การตราพ.ร.ก.นี้แสดงเจตนาดีที่ต้องการช่วยหลือประชาชน แต่เนื่องจากพฤติการณ์การกู้ยืมเงินในปัจจุบัน ลูกหนี้มีอำนาจต่อรองน้อยกว่าสถาบันทางการเงินค่อนข้างมาก จึงเสนอให้แก้ไขเพิ่มเติมประเภทของสัญญาที่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบของศาลตามพ.ร.บ.ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม รวมถึงสัญญากู้ยืมเงินที่มีข้อตกลงเรื่องอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าพ.ร.ก.ฉบับนี้ เพื่อให้ศาลมีอำนาจพิจารณาและบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาให้น้อยกว่าข้อตกลงที่ระบุไว้ในสัญญาได้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

ด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า อะไรที่รัฐบาลทำตนก็สนับสนุน และเห็นด้วย หากเป็นประโยชน์ต่อส่วนร่วม แต่พ.ร.ก.ฉบับนี้ตนอยากให้ครม.ได้ฟัง เพราะรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาและความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างตั้งใจ และเชื่อว่าอยากทำอะไรให้ดี ตนไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนหรือเสียหาย ซึ่งพ.ร.ก.ฉบับนี้อาจจะดีกว่าเดิม มีความกล้าหาญ เพื่อแก้ไขปัญหาในยุคที่ประชาชนเดือดร้อนจากดอกเบี้ย รัฐบาลตั้งใจแต่ยังขาดความกล้าหาญที่จะออกกฎหมายแก้ไขปัญหาได้อย่างสมบูรณ์ และเป็นรูปธรรมที่ดีกว่าเดิมอย่างแท้จริง ประโยชน์ที่จะได้รับ ประชาชนได้รับเพียงส่วนเดียวเท่านั้น และไม่ได้เป็นด้านที่ประชาชนเดือดร้อน เพราะธนาคารและสถาบันการเงินยังเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจและทางการเงินของประเทศ ไป ๆ มา ๆ ชาวบ้านก็เป็นเหยื่อเหมือนเดิม และเป็นคนหารายได้ให้ธนาคารและสถาบันการเงินเช่นเดิม หากจะแก้ไขปัญหาเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่เรียกในอัตราสูง หากเราออกพ.ร.ก.ฉบับนี้ต้องเทียบธุรกิจและธุรกรรมของธนาคารว่า ค้าเงินได้ผลจากดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 แต่หากเป็นเงินกู้ธนาคารร้อยละ 5 บาทขึ้นไปประชาชนก็เดือดร้อนเหมือนเดิม และมาตรา 7 ที่แก้ไขเป็นหลักการสำคัญในการเสียดอกเบี้ย ที่เกิดจากนิติธรรมและสัญญา ซึ่งชาวบ้านก็เสียดอกเบี้ยแบบเดิม แต่ตนก็เชิญชวนให้รับดีกว่าไม่ได้อะไรเลย และขอให้ใส่รายละเอียดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น

ต่อมาเมื่อเวลา 13.09 น. ภายหลังจากที่สมาชิกวุฒิสภาได้มีการอภิปรายแสดงความคิดเห็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ. 2564 อย่างกว้างขวาง ทางพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมจึงได้เรียกลงมติ ผลปรากฎว่า มีสมาชิกวุฒิสภา เห็นด้วย จำนวน 201 เสียง และงดออกเสียง 5 เสียง โดยจะมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อบต.ตะพง ชวนเที่ยวงานเทศกาลดนตรี สีสัน ผลไม้สไตล์ตะพง ของดีเมืองระยอง เลือกซื้อ ชิม ช้อปผลไม้ขึ้นชื่อเมืองระยอง ทั้งทุเรียน เงาะ ลองกอง มังคุด
น้องชายยิงพี่ชายทนายความรุ่นใหญ่ ดับคาบ้าน เหตุหึงเมีย
เมียนมาห้ามชายวัยเกณฑ์ทหารออกไปทำงานตปท.
สลด "หนุ่มใหญ่" ดกเหล้าขาวดับคาโต๊ะ คาดเป็นฮีทสโตรก หลังร้อนจัด 44 องศาฯ
"มณฑลทหารบกที่ 32" แปลอักษรถวายกำลังใจ "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
"สมาคมคนตาบอดฯ" ยืนยันจัดสรรโควต้าสลากฯครบถึงมือสมาชิก ไม่การันตีแทนองค์กรอื่นปล่อยยี่ปั๊ว-ออนไลน์
"ทนายอนันต์ชัย" ยันเอาผิดก๊วนเชื่อมจิต ย้ำลัทธิบิดเบือนหลักพุทธศาสนา รับไม่ได้ใช้เด็กหาผลประโยชน์
กมธ.ศึกษานิรโทษฯ เคาะนิยามบุคคล มีมูลเหตุการเมืองจูงใจทำผิดคดีไม่รุนแรง ตั้งแต่ปี 48 ไม่รวมละเมิด 112
“สงคราม กิจเลิศไพโรจน์” เจ้าของห้างอิมพีเรียล เปิดตัวเป็นแฟนคลับ Top News บอกชอบมานานแล้ว
TopNews เปิดใจครั้งแรก "พระวิระชัย เมตตาธีโร" ละแล้วซึ่งกิเลส พร้อมเตือนสติ 2 บิ๊ก ตร.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น