ภรรยาแทบขาดใจ สามีควบบิ๊กไบค์เสยท้ายรถอ้อยดับ เผยคำพูดที่เหมือนเป็นลางก่อนเกิดเหตุ

หนุ่มบุรีรัมย์ วัย 22 ปี ขี่รถบิ๊กไลค์กลับจากทำงานกลางดึก ก่อนถึงบ้านพุ่งชนท้ายรถบรรทุกอ้อยจอดข้างทางดับคาที ภรรยาถึงกับเข่าทรุด ลูก 3 ขวบต้องรอพ่อก่อนนอนทุกวัน เผยสามีบอกเป็นลางกับลูกตอนเช้า”เดี๋ยวพ่อไปแล้วนะลูก”

วันที่ 23 ก.พ. 2565 เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท อดิชาติ มีสา รองผกก.(สอบสวน)สภ.เมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุกอ้อยมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมเข้าร่วมตรวจสอบ

โดยที่เกิดเหตุเป็นถนน 2 เลน สายกลันทา-บ้านเสม็ด ระหว่างบ้านโคกกลาง ต.กลันทา พบรถยนต์บรรทุกอ้อย 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 80-2758 บุรีรัมย์ บรรทุกอ้อยมาเต็มคันรถจอดอยู่ข้างทาง ท้ายรถบรรทุกพบหมวกกันน็อคหล่นอยู่ มีเศษมันสมอง กระจายเกลื่อนถนน กลางถนนพบศพนายอานนท์ รักเพื่อน อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 25 ม.2 ต.ถลุงเหล็ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตในสภาพนอนคว่ำหน้า กระโหลกศีรษะด้านซ้ายหายไปทั้งแถบ ห่างกันประมาณ 10 เมตร พบรถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็ม-สแลซ สีดำ ทะเบียน1กธ 4191 บุรีรัมย์ ตกอยู่ในป่าข้างทาง สภาพด้านหน้าพังเสียหาย

 

จากการสอบถามนายเอื้อน เทวารัมย์ อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 80 ม.6 ต.ตาเสา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ คนขับรถรถบรรทุกอ้อย ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับให้การว่า ได้บรรทุกอ้อยจากไร่ จะไปส่งโรงงานน้ำตาล ใน อ.คูเมือง เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุรู้สึกเกิดปวดปัสสาวะ จึงจอดรถแอบข้างทาง จังหวะที่กำลังยืนปัสสาวะอยู่นั้นได้ยินเสียงดังโครม จึงรีบวิ่งมาดู พบว่ามีคนนอนคว่ำหน้าอยู่กลางถนน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ ต่อมาได้มี น.ส.นิตยา เรืองเจริญ อายุ 22 ปี ภรรยาผู้ตาย มาถึงหลังได้รับแจ้ง ถึงกับเข่าทรุด พร้อมกับร่ำไห้ด้วยความเสียใจ และทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

น.ส.นิตยา เล่าว่าสามีทำงานที่คลังเก็บสินค้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ ปกติสามีจะกลับค่ำเกือบทุกวัน สามีเป็นคนขยัน ทุกวันลูกชายวัย 3 ขวบจะไม่ยอมเข้านอน เพราะรอพ่อกลับบ้านก่อน แต่วันนี้กลับช้ากว่าปกติ รู้สึกสังหรณ์ใจ  เนื่องจากตอนเช้าก่อนสามีจะออกไปทำงาน ได้พูดกับลูกชายวัยว่า “เดี๋ยวพ่อก็ไปแล้วนะลูก พ่อจะไม่กลับมาแล้ว” ตนเองจึงทักท้วงสามีไปว่าทำไมพูดแบบนั้น  และไม่คิดว่าสามีจะเสียชีวิตแบบนี้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเร่งสอบสวนหาสาเหตุ ของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้อีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย.

 

ภาพ/ข่าว เรืองรุจ วังแจ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บุรีรัมย์

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เริ่มแล้วที่แรก! จ.ลำพูน กิจกรรมขยายผลภูมิปัญญาศิลปินสู่การพัฒนาอาชีพ ระดับภูมิภาค 70 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า “ศิลปินสร้างศิลปิน”
“พีระพันธุ์” อุบมติรทสช. ขอคุย “แพทองธาร” เรื่องที่เกิดขึ้นก่อน ผุดไอเดีย “ชัยเกษม” นั่งนายกฯแทน
GLO จัด "Kid Dee Roadshow" เสริมเกราะใจไซเบอร์ให้เยาวชนใต้ รู้เท่าทันภัยพนันออนไลน์
“ภราดร” เข้ากราบลา “วันนอร์” หลังลาออก รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ขอบคุณไว้วางใจ นับเป็นเกียรติได้ทำหน้าที่
"วราวุธ" แถลงชาติไทยพัฒนา ประชุม สส.-กก.บห.ไม่ถอนตัว รอคุยนายกฯเพิ่ม เกิดอะไรขึ้น
"สิบเอกสังกัดกอ.รมน." เครียดปัญหาส่วนตัว เบิกเอ็ม 16 เหนี่ยวไกปลิดชีพคาหน่วย
GULF Sparks Smiles มอบรอยยิ้มสดใสให้ชุมชน ปี 5 หน่วยที่ 3 จุดประกายรอยยิ้ม สร้างโอกาสเข้าถึงทันตกรรมฟรีให้ชาวชลบุรี
"แม่ทัพภาคที่ 2" ย้ำมุ่งมั่นปกป้องอธิปไตยชาติ ชี้ปัญหาที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียน
“นฤมล” ยืนยัน พรรคกล้าธรรม ยังสนับสนุน“นายกฯ” ทำงานต่อ ขอคนไทยสามัคคี อย่าหลงเกมกัมพูชา ช่วยกันส่งกำลังใจให้ทหารแนวหน้า
ซีพีประกาศจุดยืน “องค์กรแห่งความหลากหลาย” เดินหน้ายกระดับนโยบาย DEI และสิทธิมนุษยชน สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานสากล

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น