วันที่ 1 มิ.ย. –ผู้สื่อข่าวรัฐสภารายงานว่า เมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) ซึ่งเป็นวันแรกของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ในวาระที่ 1 โดยทางสภาฯมีมาตรการควบคุมทางสาธารณสุขอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยให้ผู้ที่เข้ามาในอาคารรัฐสภา ในทุกประตูทางเข้า – ออก ต้องสวมหน้ากากอนามัย ตรวจวัดอุณหภูมิ และกรอกแบบสอบถามทางออนไลน์เพื่อยืนยันว่าไม่เป็นผู้มีความเสี่ยง และแสดงตนเข้าพื้นที่รัฐสภา ตลอดจนขอความร่วมมือ ส.ส.ให้มีผู้ติดตามเข้ามาได้เพียงคนเดียวเท่านั้น
และจากความเข้มงวดดังกล่าว ได้เกิดเหตุกระทบกระทั่งระหว่างตำรวจรัฐสภา ที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณประตูทางเข้า – ออกชั้น 1 กับทีมงานรัฐมนตรีช่วยรายหนึ่ง ซึ่งเป็น ส.ส.อยู่ด้วย โดยในระหว่างที่รัฐมนตรีรายนั้นเดินทางเข้ารัฐสภา ตำรวจรัฐสภาเห็นว่ามีผู้ติดตามจำนวนมาก ขัดต่อมาตรการของสาธารณสุข จึงได้แจ้งและขอความร่วมมือให้ลดจำนวนผู้ติดตามเข้าพื้นที่ นอกจากนี้ ยังตรวจพบว่าผู้ติดตามบางรายได้พกพาปืนด้วย จึงไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่ สร้างความไม่พอใจให้แก่รัฐมนตรีดังกล่าว และทีมงานเป็นอย่างมาก พร้อมได้ขอจดชื่อตำรวจรัฐสภาผู้นั้นไป
โดยเมื่อคณะรัฐมนตรีรายนั้นเข้าพื้นที่รัฐสภาได้แล้ว จึงได้เรียก “ผู้อำนวยการสำนัก” สังกัดสภาผู้แทนราษฎรคนหนึ่งไปตำหนิ และให้ตามตัวตำรวจรัฐสภาที่จดชื่อไว้มาเข้าพบ เพื่อต่อว่าที่ไม่ให้ให้เกียรติรัฐมนตรีและทีมงาน ไม่เพียงเท่านั้น ยังบังคับให้ตำรวจรัฐสภาคนนั้นกราบเท้ารัฐมนตรีเพื่อขอขมาด้วย ฝ่ายตำรวจรัฐสภาจึงจำเป็นต้องปฏิบัติตาม แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม เพราะเชื่อว่าตนเองปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง