AFP รายงานว่าบุน รัตนา ไกด์นำเที่ยวชาวกัมพูชาออกมาโอดครวญว่าการท่องเที่ยวที่นครวัดนครธม มรดกโลกและโบราณสถานชื่อดังของกัมพูชาได้ตกต่ำลงอย่างมากนับตั้งแต่เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้รายได้ของเขาลดลงถึง 80% เหลือแค่ 150 ดอลล่าร์ (ราว 4,800 บาท) ในเดือนนี้ (ธันวาคม) เมื่อเทียบกับธันวาคมปีที่แล้ว ล่าสุดมีการยกเลิกทัวร์ไปแล้วกว่า 10 รายการ เพราะนักท่องเที่ยวจำนวนมากพากันหวาดกลัว นอกจากนี้ก็มีการปิดจุดผ่านแดน ทำให้กระทบบริษัททัวร์, พ่อค้าแม่ค้าแผงลอยและผู้ให้บริการรถขนส่งในเมืองเสียมราฐอย่างถ้วนหน้า
ขณะที่โนฟ เหมา คนขับตุ๊กตุ๊กก็โอดว่ารายได้ของเขาลดลงไปครึ่งนึงหลังจากเกิดเหตุปะทะในเดือนพฤษภาคม
ข้อมูลของอังกอร์ เอ็นเทอร์ไพรส์เผยว่ายอดขายบัตรเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์นครวัดลดลงอย่างน้อย 17% ระหว่างเดือนมิถุนายถึงพฤศจิกายน เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (2567) หลังจำนวนรถทัวร์ลดลงอย่างฮวบฮาบ
อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการบริษัททัวร์กัมพูชากล่าวว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงส่วนใหญ่เป็นคนไทยและนักท่องเที่ยวที่เดินทางข้ามพรมแดนจากไทย แต่นักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยเครื่องบิน รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวจีนกลับเพิ่มจำนวนมากขึ้น ขณะที่นักท่องเที่ยวอเมริกันบอกว่าไม่รู้สึกวิตกและได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ผุ้เชี่ยวชาญชี้ว่าความหวาดกลัวที่ทวีความรุนแรงขึ้นไม่ใช่จากเหตุสู้รบเท่านั้น แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัญหาเครือข่ายสแกมเมอร์หรือแก๊งหลอกลวงออนไลน์ในกัมพูชา ทั้งนี้ทิม เสเรย์วุธ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวประจำจังหวัดเสียมราฐยอมรับว่าชื่อเสียงของกัมพูชาในฐานะศูนย์กลางสแกมเมอร์ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามเขามั่นใจว่านักท่องเที่ยวจะกลับมาที่นครวัดอีกครั้งหลังจากการสู้รบยุติลง

