เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้เดินทางไปพูดคุยกับ นายวรพัทธ์ เจนวิศาลพงศ์ เจ้าของที่ดินจุดพักคอยขยะ บริเวณสี่แยกไฟแดงสะพานดำ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งทางเทศบาลนครหาดใหญ่มีการขอเช่าและใช้พื้นที่ แต่ทางนายวรพัทธ์ เจนวิศาลพงศ์ เจ้าของที่ดิน ได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ได้โดยไม่คิดค่าเช่าแม้แต่บาทเดียว จึงทำให้พี่น้องชาวหาดใหญ่ต่างชื่นชมในความเสียสละ โดยทางนายวรพัทธ์ เจนวิศาลพงศ์ เจ้าของที่ดิน เปิดเผยว่า ครอบครัวตนเองเป็นเจ้าของที่ดินผืนดังกล่าว มีขนาด 12 ไร่ครึ่ง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหาดใหญ่ แต่เดิมตั้งใจจะพัฒนาพื้นที่เป็นหมู่บ้านจัดสรร แต่มีปัญหาหลายๆ อย่างจึงยังไม่สามารถดำเนินการได้ จึงปล่อยเป็นที่ว่างเปล่า

จนเมื่อมาถึงเหตุการณ์ทั้งอำเภอหาดใหญ่ หลังน้ำลดพบขยะเป็นจำนวนมากหลายพันตัน ตนเองได้รับการติดต่อมาจากนายกเทศบาลนครหาดใหญ่ หรือนายกฯ แป้น ว่าอยากจะขอเช่าพื้นที่มาเป็นจุดพักคอยขยะที่ไปเก็บตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วอำเภอหาดใหญ่ มาไว้ที่นี่เป็นการชั่วคราว ก่อนจะย้ายกำจัดยังพื้นที่อื่น เนื่องจากสถานที่กว้างขวางและยังเป็นใจกลางเมือง เมื่อได้ปรึกษาครอบครัว จึงตกลงว่า จะอนุญาตให้เทศบาลนครหาดใหญ่ใช้ที่ดินเป็นการชั่วคราวโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อต้องการให้เจ้าหน้าที่เร่งเก็บขยะหลังน้ำลดให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ นายวรพัทธ์ เจนวิศาลพงศ์ เจ้าของที่ดิน ยังบอกอีกว่า ปัญหาอย่างหนึ่งที่คนหาดใหญ่วิตกกังวลมากที่สุด คือถ้าไม่เร่งดำเนินการเก็บขยะและนำขยะไปกำจัดให้เร็ว อาจทำให้เกิดมลพิษและโรคระบาด หวังว่าเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อให้หาดใหญ่กลับมาเป็นเมืองที่สวยงามสะอาดและเป็นระเบียบอีกครั้ง

ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังเก็บภาพได้สังเกตเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวและร้านขายเสื้อผ้าเด็ก ซึ่งห่างจากภูเขากองขยะประมาณ 50 เมตร พบว่ามีร้านอาหารเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวก้องลูกชิ้นปลา ทางเจ้าของร้านไม่สามารถดำเนินกิจการต่อได้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่นฟุ้งที่รถบรรทุกขยะวิ่งเข้าวิ่งออกตลอดทั้งวัน ทำให้ฝุ่นลอยลงในอาหาร พร้อมกับกลิ่นเหม็นจากกองขยะ ส่วนอีกร้านเป็นร้านขายเสื้อผ้าเด็ก ได้รับผลกระทบฝุ่นฟุ้งลอยมาติดเสื้อผ้าเด็กจนสีเสื้อแดงหมดทั้งร้าน ซึ่งเจ้าของกิจการทั้ง 2 ร้านหวังว่าหลังน้ำลดจะหาเงินมาใช้จ่ายเลี้ยงครอบครัว แต่กลับมาเจอปัญหาภูเขาขยะซ้ำเติมรอบ 2.