เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 11 ธ.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ได้รับการประสานจากสถานทูตแอฟริกาว่า มีชาวต่างชาติส่งพิกัดขอความช่วยเหลือ อ้างว่าถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวภายในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 7 ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร หลังได้รับแจ้ง พล.ต.ท.โอภาส คงเมือง ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กำแพงเพชร ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมสายตรวจตำบลเทพนคร ลงพื้นที่ตรวจสอบตามพิกัด พบชาวต่างชาติ รวม 20 คน เป็นชาย 10 หญิง 10 ประกอบด้วย สัญชาติแอฟริกา 15 คน นามิเบีย 4 คน และซิมบับเว 1 คน อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว

จากนั้นได้มีการนำตัวมายังสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกำแพงเพชร เพื่อทำการสอบสวนทางคดี จากการตรวจสอบเอกสารเดินทาง พบว่า ทุกคนมีหนังสือเดินทางถูกต้อง แต่วีซ่าและการอนุญาตพำนักในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดลงแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิด “เป็นบุคคลต่างด้าว ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”

เบื้องต้นทราบว่า ชาวต่างชาติดังกล่าวเป็นแก๊งสแกมเมอร์ที่หลบหนีมาจาก เคเคปาร์ค ภายหลังจากทหารเมียนมาทิ้งระเบิดจนได้รับความเสียหาย จึงหนีข้ามมายังประเทศไทย ผ่านทาง อ.พบพระ จ.ตาก แล้วเดินข้ามเขามาพักที่ บ้านผาผึ้ง อ.วังเจ้า จ.ตาก และเดินทางต่อตามเส้นทางธรรมชาติจนถึงเขต อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร จากนั้นมีรถมารับ แล้วนำมาพักไว้ที่บ้านหลังที่ได้รับแจ้ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร โดยมีเจ้าของบ้านเป็นผู้ให้ที่พักพิง ซึ่งได้รับการว่าจ้างจากขบวนการในการดูแลเรื่องอาหาร และที่พักให้กับต่างด้าว
เจ้าของบ้านยังสารภาพว่า เคยทำมาแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งจริงๆ แล้วในเวลา 19.00 น. ของวันนี้ 11 ธ.ค.68 จะมีรถมารับชาวต่างชาติทั้ง 20 คน เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศกัมพูชา โดยผ่านเส้นทางประเทศลาว แต่ถูกจับได้ซะก่อน โดยหนึ่งในนั้นไม่อยากไปเลยใช้แอป WhatsApp แจ้งไปบอกครอบครัวที่ประเทศของตนเอง เพื่อแจ้งเบาะแสให้สถานทูตไทยเข้าตรวจสอบจึงถูกตามจับได้ดังกล่าว
นอกจากนี้ตำรวจพบของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือจำนวนกว่า 80 เครื่อง โดยพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.68) ตำรวจจะทำการคัดแยกชาวต่างชาติทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีและผลักดันกลับประเทศต่อไป




