“จุลพันธ์” ซัด “เท้ง” ปล่อยหนูเข้าป่า ชี้ดีลการเมือง “ปชน.-ภท.” พังพินาศที่สุด ต้องรับผิดชอบร่วมกัน – Top News รายงาน

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 เวลา 08.50 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ไปไม่ถึงวาระ 3 ถือว่าเกินความคาดหมายหรือไม่ ว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่พูดมาโดยตลอด เพราะเห็นมาตั้งแต่ต้นว่าเอ็มโอเอที่ทำมาจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคประชาชน (ปชน.) มีแต่ทางล้มเหลว เพราะเป็นดีลการเมืองที่พังพินาศที่สุดเท่าที่เคยมีมา และขัดต่อหลักการประชาธิปไตย และเมื่อเข้าสู่ดีลนี้กันแล้วมีแต่ไปสู่ความผิดพลาด สุดท้ายปรากฏชัดเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า เราสงสัยมาโดยตลอดถึงเรื่องความจริงใจรัฐบาลที่จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจุดนี้ตนไม่แน่ใจว่าพรรคปชน. เพิ่งเห็นหรือไม่อย่างไรเพราะเราพยายามเตือน พยายามบอกตั้งแต่ต้นอยู่แล้วสุดท้ายก็ปรากฏชัด เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่ประชุมรัฐสภา ทางพรรคภท. โหวตให้กับสว. โดยให้เหตุผลว่าไม่สามารถไปคุยกับสว.ได้ หรือไปควบคุมไม่ได้ จึงจำเป็นต้องยกมือให้เพื่อหวังว่าวาระ 3 จะผ่าน หากจะมีคนเชื่อก็มีแต่พรรคปชน. เพราะพรรคการเมืองอื่นเห็นอยู่แล้วว่าการเคลื่อนไหวของสว.ชุดนี้ มีความเชื่อมโยงกับพรรคภท. อย่างไร
“จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องประหลาด ซึ่งนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ก็ได้พูดเมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่าที่เข้าสู่เอ็มโอเอฉบับดังกล่าว เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทย มีอำนาจเหนือที่จะเจรจากับสว.ชุดนี้ ฉะนั้น นายณัฐพงษ์คงเชื่อเหมือนกับผมว่ากระบวนการฮั้วสว.นั้นมีจริง” นายจุลพันธ์ กล่าว
เมื่อถามถึง กรณีที่สถานการณ์มาถึงจุดนี้ดูเหมือนว่าพรรคปชน.กับพรรคภท.โยนความผิดกันไปมา นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ต้องรับผิดชอบทั้งคู่ สำหรับพรรค พท.ต้องแสดงความผิดหวังกับรัฐบาลก่อน เพราะสภาวะประเทศขณะนี้ทั้งสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา เรื่องน้ำท่วมที่ยังแก้ไขไม่เสร็จ รัฐบาลกลับปัดทิ้งภาระความรับผิดชอบ และเลือกที่จะหนีการตรวจสอบผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจและยุบสภา ทิ้งให้ประชาชนเดือดร้อนต่อไป แต่แน่นอนว่ากลไกภาครัฐยังสามารถเดินต่อไปได้ ทหารก็ดูแลชายแดนไป แต่รัฐบาลปัดความรับผิดชอบของตนเอง ยุบสภาหนีการตรวจสอบ
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ในขณะที่ความผิดหวังที่สองของพรรค พท. คือพรรคปชน. ซึ่งยอมรับว่าก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกับนายณัฐพงษ์จริง ที่มาขอให้พรรค พท.ชะลอการยื่นอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 และสุดท้ายมาพูดคุยกันว่าหากการลงมติในวาระที่ 2 มีปัญหาหรือแพ้ นายณัฐพงษ์ก็เชื่อว่ารัฐบาลไม่มีความจริงใจ ก็จะมาร่วมกับพรรค พท. ในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งตอนที่นายณัฐพงษ์พูดในสภา ตนอยู่ด้านนอก แต่เมื่อได้ยินก็รีบเข้ามาทันที เพราะตอนที่นายณัฐพงษ์พูด ก็ชัดเจนว่า หากญัตติโหวตแพ้ ก็ขอเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา และส่งสัญญาณว่าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
“ซึ่งต้องใช้คำว่า ปล่อยหนูเข้าป่า เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้รัฐบาลสามารถที่จะยุบสภาได้ทัน เพื่อที่จะไม่ต้องตรวจสอบกัน เป็นการเปิดโอกาสให้รัฐบาล ไม่ต้องโดนตรวจสอบ ซึ่งเราผิดหวังทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ และอีกหลายพรรคการเมือง ที่มาลงชื่อไว้กับผม ก็พร้อมที่จะตรวจสอบ เรารอพรรคประชาชนว่าจะเอาอย่างไร”นายจุลพันธ์ กล่าว




