Stimson Center แถลงหลักฐานใหม่! เหมืองริมลำน้ำพุ่งไม่หยุด–สารพิษปนเปื้อนกระทบสุขภาพและการเกษตร ชี้เชียงรายใกล้วิกฤต

วันที่ 25 พ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถาบัน Stimson Center แถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00 น. ตามเวลาไทย โดยมีผู้ร่วมบรรยาย ได้แก่ นายเรแกน ขวัน (Mr.Regan Kwan) นักวิเคราะห์วิจัย นายไบรอัน ไอเลอร์ (Mr.Brian Eyler) นักวิจัยอาวุโสและผู้อำนวยการโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของ Stimson Center โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าว อาทิ น.ส.เพียรพร ดีเทศน์ ผอ.ฝ่ายรณรงค์องค์กรแม่น้ำนานาชาติ ผศ.ดร.ว่าน วิริยา อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ ม.เชียงใหม่ นางแสงระวี สุวีรการย์ รองประธานมูลนิธิร่มโพธิ์ ฯลฯ โดยตัวแทน Stimson Center เผยหลักฐานใหม่จากภาพถ่ายดาวเทียมและข้อมูลภาคสนามที่ชี้ให้เห็นว่าการทำเหมืองที่ไร้การควบคุมในเมียนมา ลาว กัมพูชา และไทย กำลังสร้างผลกระทบต่อแม่น้ำสายสำคัญและชุมชนริมน้ำอย่างรุนแรง

รายงานระบุว่า ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การขยายตัวของเหมืองแร่หายาก ทองคำ ทองแดง นิกเกิล และแมงกานีส ที่ไม่ได้รับการควบคุม ได้ปล่อยสารปนเปื้อน เช่น ไซยาไนด์ ปรอท สารหนู และโลหะหนักอื่น ๆ ลงสู่ลำน้ำสายหลักกว่า 43 สาย ในภูมิภาค และพบว่าเหมืองหลายแห่งตั้งอยู่บนหรือใกล้ลำน้ำโดยตรง ทำให้สารพิษจากกระบวนการทำเหมืองไหลเข้าสู่แม่น้ำโดยตรง

แดชบอร์ดข้อมูลแบบอินเทอร์แอคทีฟ ของ Stimson Center ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 แสดงข้อมูลสำคัญ ได้แก่ เหมืองไร้การควบคุมมากกว่า 2,400 แห่ง ที่ระบุพิกัดด้วยภาพดาวเทียมความละเอียดสูง การตั้งเหมืองใกล้ลำน้ำในเมียนมา ลาว และกัมพูชา ผลการตรวจคุณภาพน้ำในแม่น้ำที่มีข้อมูล และช่องว่างอันน่ากังวลในพื้นที่ที่รัฐบาลไม่เคยตรวจ ทั้งยังมีชุดข้อมูลดาวน์โหลดได้เพื่อสนับสนุนงานสืบสวนข่าวข้ามพรมแดนและการทำรายงานเชิงลึก

รายงานชี้ว่าเหมืองแร่ริมลำน้ำ โดยเฉพาะ เหมืองแรร์เอิร์ธแบบ in-situ leaching ใช้น้ำจำนวนมหาศาลจากแม่น้ำใกล้พื้นที่ขุดเพื่อฉีดผสมสารเคมีลงชั้นดินให้เกิดของเหลว (slurry) สำหรับแยกแร่ แต่ในเหมืองที่ไร้การควบคุม น้ำเสียที่ปนสารพิษ เช่น สารหนู, ปรอท, แคดเมียม, แมงกานีส ถูกปล่อยลงแม่น้ำโดยตรง สารเหล่านี้สามารถกระจายไปยังแหล่งน้ำของชุมชน พื้นที่เกษตรริมฝั่งแม่น้ำ และประชากรปลา ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างรุนแรง

แม้กิจกรรมเหมืองในภูมิภาคแม่น้ำโขงจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ผลกระทบต่อชุมชนและสัตว์น้ำแทบไม่มีการบันทึกหรือศึกษามาก่อน ขณะที่หลายรัฐบาลยังไม่พร้อมรับมือ หรือบางแห่งเลือกนิ่งเฉยต่อปัญหาที่เกิดขึ้น

กรณีของ รัฐคะฉิ่นในเมียนมา ถูกเปิดเผยมากขึ้นหลังจาก NGO และองค์กรท้องถิ่นเก็บข้อมูลหลายปี ขณะที่ฝั่งไทยโดยเฉพาะ จ.เชียงราย กำลังเผชิญวิกฤตสุขภาพใกล้ปะทุ จากสารปนเปื้อนที่ไหลมาจากเหมืองต้นน้ำในเมียนมา ผ่านแม่น้ำกก, แม่น้ำสาย–รวก และแม่น้ำโขง ผลตรวจน้ำปี 2025 พบสารพิษในระดับสูง บางพื้นที่ชาวบ้านต้องหยุดใช้น้ำเพื่ออุปโภค–บริโภคและเกษตรกรรม สื่อไทยเริ่มรายงานตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 แต่ยังขาดการตอบสนองอย่างจริงจังจากหน่วยงานรัฐทั้งสองประเทศ

นักวิทยาศาสตร์ไทยพบว่า สารหนูในแม่น้ำสาละวินสูงกว่าค่ามาตรฐานถึง 5 เท่า ขณะที่ประชาชนหลายหมื่นคนริมแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำรวก ต้องลดการใช้น้ำหรือหยุดใช้น้ำจากแม่น้ำเพื่อความปลอดภัย

ใน สปป.ลาว และ กัมพูชา เหมืองหลายจุดเพิ่งถูกตรวจพบและบันทึกอย่างเป็นระบบ โดยหลายจุดเป็นข้อมูลใหม่ที่เผยแพร่ครั้งแรกผ่านแดชบอร์ด Stimson Center ช่วยให้เห็นภาพรวมปัญหาที่กำลังลุกลามในลุ่มน้ำโขง

รายงานเตือนว่าการรับมือผลกระทบจากเหมืองต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจาก รัฐบาล, องค์กรข้ามชาติ, นักวิชาการ, NGO และชุมชนท้องถิ่น เพื่อสร้างฐานข้อมูลกลางและเข้าใจผลกระทบอย่างถูกต้อง

ข่าวที่น่าสนใจ

วิโรจน์ วงศ์ใหญ่ ผู้สื่อข่าว TopNewsทั่วไทย จ.เชียงราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชาวจันทบุรีรวมพลัง! ตั้งเต็นท์รับบริจาคช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้
คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร เร่งติดตามการบริหารงบประมาณเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านถนน ระบบราง และโครงการก่อสร้างในพื้นที่โคราช
ทอม ไรท์แฉเบนสมิธอยู่เบื้องหลัง MOU ไทย-สิงคโปร์
ผอ.เทคนิคฉะเชิงเทรา มอบหลวงพ่อโสธรแด่ทูตภูฏาน กระชับสัมพันธ์สองชาติ
ทูตจีนยกย่องการเสด็จของในหลวงประสบความสำเร็จงดงาม
สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา จัดพิธีเปิดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี 2568

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​