รอยเตอร์สรายงานว่าทาคาอิจิได้ออกมาแถลงข่าวในวันนี้(อังคารที่ 25 พย.) เผยว่าเธอได้รับโทรศัพท์จากผู้นำสหรัฐเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งทรัมป์ได้บอกกับเธอว่า ตัวทรัมป์และทาคาอิจิเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเป็นอย่างมาก และทาคาอิจิสามารถโทรหาเขาได้ตลอดเวลา
การต่อสายพูดคุยครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ญี่ปุ่นจุดชนวนความขัดแย้งกับจีนเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เมื่อทาคาอิจิกล่าวในทำนองว่าญี่ปุ่นอาจใช้กำลังทหารปกป้องไต้หวันหากจีนเปิดปฏิบัติการโจมตี นอกจากนี้การสนทนาครั้งนี้ยังมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงต่อสายพูดคุยกับทรัมป์เรื่องประเด็นไต้หวัน
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐยังไม่เคยออกมาพูดหรือแสดงความเห็นในที่สาธารณะเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าการปิดปากเงียบของทรัมป์ได้สร้างความวิตกให้กับเจ้าหน้าที่หลายคนของญี่ปุ่น โดยกลัวว่าทรัมป์อาจขายไต้หวันให้จีนเพื่อหวังบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีน การที่ทาคาอิจิออกมาเผยถึงบทสนทนากับทรัมป์ในวันนี้ก็เพื่อลดความวิตกและเพื่อแสดงให้เห็นว่าญี่ปุ่นยังได้รับการหนุนหลังจากทรัมป์
ทาคาอิจิเผยด้วยว่าทรัมป์ได้เล่าถึงบทสนทนาระหว่างตัวเขากับผู้นำจีนเมื่อวันจันทร์ ซึ่งสีได้บอกกับผู้นำสหรัฐถึงความสำคัญที่จีนจะต้องควบรวมไต้หวัน เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญของระเบียบโลกหลังสงครามโลก ทรัมป์ยังคุยโวถึงความคืบหน้าความสัมพันธ์สหรัฐ-จีนที่กำลังแข็งแกร่ง แต่ไม่ได้เอ่ยถึงการพูดคุยเรื่องไต้หวัน
ด้านนายกรัฐมนตรีโจว๋ หรงไท่ของไต้หวันออกมาตอบโต้ในวันนี้ว่า “การกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของจีนไม่ใช่ทางเลือกของไต้หวัน”
เมื่อวานนี้ (จันทร์ 24 พย.) จีนได้วิพากษ์วิจารณ์แผนของญี่ปุ่นที่จะส่งเครื่องยิงขีปนาวุธพิสัยกลางชนิดพื้นดินสู่อากาศไปยังเกาะโยนากุนิ ซึ่งอยู่ใกล้ไต้หวันมากที่สุด พร้อมกล่าวหาญี่ปุ่นว่าพยายาม “สร้างความตึงเครียดในภูมิภาคและยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าทางทหาร” ขณะที่ญี่ปุ่นได้ส่งเครื่องบินขับไล่ออกลาดตระเวนหลังตรวจพบโดรนของจีนบินระหว่างเกาะโยนากุนิกับไต้หวันในวันเดียวกัน
จนถึงขณะนี้ทากาอิจิยังคงปฏิเสธที่จะถอนคำพูดตามคำเรียกร้องของจีนประเด็นไต้หวัน แต่บอกว่ายินดีที่จะเจรจากับจีนในทุกระดับเพื่อลดความตึงเครียด
ด้านสื่อท้องถิ่นรายงานว่ารัฐมนตรีช่วยต่างประเทศญี่ปุ่นได้เข้าพบเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงโตเกียวในวันนี้ (อังคารที่ 25 พย.)
ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่าข้อพิพาทครั้งนี้น่าจะเป็นหนึ่งในอีกหลายความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นกับจีน ภายใต้การนำของทาคาอิจิ นายกฯหญิงสายเหยี่ยวของญี่ปุ่น

