วันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 จากการที่เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม (สคพ.1) สำนักงานสิ่งแวดล้อมเเละควบคุมมลพิษที่ 1 เชียงใหม่ ได้มาเก็บตัวอย่างน้ำสาละะวิน และแบ่งตัวอย่างเดียวกันให้ตรวจโดยการเตรียมตัวอย่างจากศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ตรวจจาก Test kit Innovative Instrument Co., Ltd. และตรวจ ICP-OES จาก ห้องแล็บ (Lab Connection) Lab Connection Co., Ltd. นั้น

ล่าสุดผลตรวจออกมาแล้ว พบว่า เจอสารอันตราย 2 ตัว คือ “สารหนู” และ “สารปรอท” ในปริมาณที่ เกินเกณฑ์ความปลอดภัย โดย สารหนู (Arsenic – As): พบค่าเกินมาตรฐาน (0.01 ppm) ในเกือบทุกจุดตรวจวัด (ค่าที่วัดได้อยู่ในช่วง 0.0195 – 0.0321 ppm) สารปรอท (Mercury – Hg): พบค่าเกินมาตรฐาน (0.002 ppm) ในทุกจุดตรวจวัด (ค่าที่วัดได้อยู่ในช่วง 0.0026 – 0.0063 ppm) ซึ่งเป็นผลการตรวจสอบ คุณภาพน้ำในแม่น้ำสาละวิน จำนวน 13 จุด ตั้งแต่ชายแดนไทย-เมียนมา ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จนถึง บ้านสบเมย หมู่ 4 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งผลดังกล่าว เป็นการเก็บตัวอย่างน้ำ ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 12 – 13 พฤศจิกายน 2568 โดยวิธีการเก็บตัวอย่างและตรวจวิเคราะห์ด้วยวิธีตามประกาศกรมควบคุมมลพิษและ standard methods for the examination of water and wastewater

สำหรับแนวทาง การดำเนินงานในขั้นต่อไปนั้นทาง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะทำหนังสือด่วนที่สุดแจ้งกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประสานแจ้งผลต่อประเทศเมียนมา และขอให้เมียนมาตรวจสอบคุณภาพน้ำและแหล่งกำเนิดมลพิษ
ส่วน กรมควบคุมมลพิษ จะลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชน เรื่องการใช้น้ำกินน้ำใช้ในชีวิตประจำวันและวิธีการปรับปรุงคุณภาพน้ำเบื้องต้นอย่างง่าย ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ใช้น้ำประปาภูเขา และได้ตรวจน้ำประปาภูเขาแล้วว่าไม่พบสารหนูแต่อย่างใด จึงไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรในเรื่องนี้ แต่มี 4 ครอบครัวที่อาศัยอยู่ในแพริมน้ำและใช้น้ำโดยตรงจากแม่น้ำสาละวิน เจ้าหน้าที่ คพ. ได้แนะนำวิธีการปรับปรุงคุณภาพน้ำเบื้องต้น เมื่อครั้งลงพื้นที่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมาแล้ว และ ทาง คพ.จะตรวจสอบคุณภาพน้ำและแจ้งประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง สำหรับ ผลการวิเคราะห์การปนเปื้อนในปลาและพืช ปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเก็บตัวอย่างแล้ว และอยู่ระหว่างรอผลการวิเคราะห์

ทั้งนี้ คพ.จะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้านต่อไปอีกครั้งในอาทิตย์หน้า โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะเร่งหาแหล่งน้ำทางเลือก ทั้งน้ำสำหรับอุปโภคและการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำผิวดินหรือน้ำบาดาล ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ดำเนินการสำรวจเบื้องต้น 3 จุด ประกอบไปด้วย บริเวณบ้านแม่สามแลบ บ้านพะละอึ และ บ้านสบเมย และมีแผนจะเจาะบ่อบาดาล หรือหาแหล่งน้ำอื่น เพื่อบรรเทาผลกระทบให้ชุมชนต่อไป

แม่น้ำสาละวินมีความยาวประมาณ 2,800 กม. มีต้นกำเนิดมาจากธิเบต ไหลผ่านทางตอนใต้ของสาธารณรัฐ ประชาชนจีน เข้าประเทศพม่าผ่านรัฐฉาน รัฐกะยา และรัฐกะเหรี่ยง และลัดเลาะชายแดนไทยผ่านอำเภอแม่สะเรียง อำเภอสบเมย มีความยาว 140 กิโลเมตร สาเหตุของสารโลหะหนักที่ปนเปื้อนครั้งนี้ คาดว่า พบมีการทำเหมืองแร่ต่างๆและแรร์เอิร์ทบริเวณต้นแม่น้ำสาละวินจำนวนมาก แต่อยู่ไกลมากจากจุดเก็บตัวอย่างน้ำ จึงไม่แน่ใจว่ามีสาเหตุมาจากากรทำเหมืองแร่หรือไม่




