CIB แถลงใหญ่ สรุปยึดทรัพย์หมื่นล้าน รวมที่ดินกว่า 7,200 ไร่ “วัดพระบาทน้ำพุ”

CIB แถลงใหญ่ สรุปยึดทรัพย์หมื่นล้าน รวมที่ดินกว่า 7,200 ไร่ "วัดพระบาทน้ำพุ"

13 พฤศจิกายน 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชน์ ผบก.ปอศ., พล.ต.ต.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผบก.ปอท., พล.ต.ต.เอนก เตาสุภาพ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป. ร่วมกับ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ภายใต้การอำนวยการของ นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของ นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.

 

 

 

 

นายจรงค์ เกราะเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ, นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ท. ภายใต้การอำนวยการของ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. สำนักงาน ป.ป.ง. ภายใต้การอำนวยการของ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ง., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ง.

ทั้งหมดเปิดปฏิบัติการร่วมกัน โดย กองบังคับการปราบปราม ประกอบด้วย กก.1 บก.ป., กก.2 บก.ป., กก.3 บก.ป., บก.ปอศ.,บก.ปอท., บก.ปปป., เจ้าหน้าที่ สตง., เจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ช., เจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ท. และ เจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ง. เมื่อวันที่ 26 ส.ค.2568

 

ข่าวที่น่าสนใจ

พฤติการณ์ กล่าวคือ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยา และอาจารย์ประจำภาควิชาสังคมศาสตร์ (สาขาอาชญาวิทยา) คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่ง พาผู้ร้องเรียนเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เพื่อให้ข้อมูลว่า นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ทูตสื่อวิญญาณ หรือ หมอบี” มีพฤติการณ์ทุจริตเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ ที่ประชาสัมพันธ์เปิดขอรับบริจาคเงินผ่านโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก ชื่อเพจ “งมงาย สไตล์หมอบี” โดยอ้างว่าเป็นการร่วมทำบุญ โดยตนเองจะทำหน้าที่เป็นสะพานบุญนำเงินที่ผู้ร่วมทำบุญโอนเงินเข้ามาในบัญชีที่ตนเองรับบริจาค ไปส่งมอบให้กับ วัดพระบาทน้ำพุ เพื่อที่ พระราชวิสุทธิประชานาถ (หลวงพ่ออลงกต) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี จะนำไปใช้ช่วยเหลือ ผู้ป่วยโรคเอดส์ และตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ของวัดพระบาทน้ำพุ

นายเสกสันน์ หรือ หมอบี ได้เปิดบัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี “ใจฟ้าอาทรประชานาถ โดย นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล” ในการรับเงินบริจาคจากประชาชนทั่วไป ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2562 ถึง ปี 2568 มีประชาชนบริจาคเงินเพื่อทำบุญให้วัดพระบาทน้ำพุ และบริจาคเงินทำบุญอื่นๆ มียอดเงินหมุนเวียนเข้าบัญชี ดังกล่าว จำนวน 300 กว่าล้านบาท

​เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และ พนักงานสอบสวน ของ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม จึงได้ร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยการสอบพยานบุคคล ตรวจสอบพยานหลักฐานต่าง ๆ จนพบมีมูลว่า นายเสกสันน์ หรือ หมอบี ทรัพย์สืบสกุล ไม่ได้นำเงินที่ได้จากการบริจาคไปมอบให้กับวัดพระบาทน้ำพุ ทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์ตามที่กล่าวอ้าง โดยมีหลักฐานเชื่อว่านำเงินที่มีผู้บริจาคให้กับวัดพระบาทน้ำพุ ผ่านบัญชีธนาคารที่ตนเองเปิดมาไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว บางส่วนนำไปมอบให้กับ อดีตหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ

​จากนั้น กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมและพบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ (หลวงพ่ออลงกต) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เมื่อรับเงิน ที่นายเสกสันน์ หรือ หมอบี ทรัพย์สืบสกุล นำมามอบให้ในฐานะตัวแทนของวัดพระบาทน้ำพุ กลับไม่นำเงินเข้าสู่ระบบของวัดพระบาทน้ำพุ แต่พระราชวิสุทธิประชานาถ (หลวงพ่ออลงกต) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ได้ทุจริตเอาเงินที่รับมาทั้งหมด ไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว อาทิเช่น นำไปให้บุคคลภายนอกกู้ยืม นำไปซื้อทรัพย์สินส่วนตัวโดยใส่ชื่อผู้อื่นถือครองไว้แทน เป็นต้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม จนนำมาสู่การขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับนายเสกสันน์ และอดีตหลวงพ่ออลงกต และได้เปิดปฏิบัติการ “Operation Endgame: ปฏิบัติการคืนศรัทธา บอกลางมงาย สไตล์ CIB” ไปเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 พร้อมทั้งตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายเพื่อหาพยานหลักฐานประกอบคดีจำนวน 17 จุด ทั้งในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดลพบุรี โดยจับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับ จำนวน 2 ราย คือ

1.พระราชวิสุทธิประชานาถอลงกต พูลมุข (อลงกต ติกขปญโญ) หรือนายอลงกต พูลมุข อายุ 65 ปี กระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฟอกเงินและสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน”

​2.นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือหมอบี อายุ 43 ปี กระทำความผิดฐาน “ผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฟอกเงินและสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน

พร้อมตรวจยึดของกลางที่สำคัญ ดังนี้

1. ยานพาหนะรถยนต์ จำนวน 3 คัน รวมมูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท (ยึดได้จากบุคคลใกล้ชิด นายเสกสันน์ ที่ใส่ชื่อถือครองรถยนต์ แทนนายเสกสันน์)

2. เงินสด รวมทั้งสิ้นประมาณ 2,562,350 บาท (ยึดได้จากนายเสกสันน์ 2 ล้านเศษ และ ยึดได้จากอดีตพรพะอลงกต อีก 5 แสนบาท)

3. กระเป๋าแบรนด์เนม จำนวน 3 ใบ รวมมูลค่าประมาณ 4 แสนบาท (ยึดได้จากภรรยาของนายเสกสันน์)

4. เช็คนำฝากชื่อผู้อื่น จำนวน 21 ใบ มูลค่า 52 ล้าน (ยึดได้ที่ตัว อดีตหลวงพ่ออลงกต ในวันจับกุม)

5. โฉนดที่ดินและเอกสารสิทธิ จำนวนทั้งสิ้น 23 ฉบับ พื้นที่ 323 ไร่ 1 งาน 60 ตารางวา

-​โฉนดที่ดิน จำนวน 2 ฉบับ ยึดได้จากนายเสกสันน์ ในวันเข้าจับกุม (มูลค่าที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ร่วม 70 ล้านบาท)

– โฉนดที่ดิน จำนวน 21 ฉบับ ยึดได้จากการเข้าตรวจค้น วัดพระบาทน้ำพุ

​และหลังจากการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้แล้วนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้บูรณาการร่วมกัน เพื่อสืบสวนติดตามทรัพย์สิน ที่บุคคลอื่นมีชื่อถือครองไว้แทนวัดพระบาทน้ำพุ ให้นำกลับมาคืนสู่วัดพระบาทน้ำพุ จนเป็นที่มาของ การได้กลับคืนมาซึ่งโฉนดที่ดิน เอกสารถือครองที่ดิน ยานพาหนะ จากผู้ถือครองแทน ดังนี้

1. โฉนดที่ดิน จำนวน 411 ฉบับ รวมพื้นที่ 2,258 ไร่ 3 งาน 28.5 ตารางวา

​2. หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) จำนวน 389 แปลง รวมพื้นที่ 4,957 ไร่ 2 งาน 74 ตารางวา

3. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์ตู้ ระกระบะ รถแทรกเตอร์ที่ใช้ในการเกษตร รสบัส และรถบรรทุก ร่วม 60 คัน

ทั้งนี้ ​​รวมที่ดินที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางติดตามเพื่อนำมาคืนสู่วัดพระบาทน้ำพุ ได้นั้น เนื้อที่ดิน รวมประมาณ 7,200 ไร่เศษ เมื่อตรวจสอบราคาประเมินที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และยานพาหนะ นั้น มูลค่ารวมประมาณกว่าหมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ ยังได้รวบรวมหลักฐานเพื่อมอบให้กับวัดพระบาทน้ำพุ ดำเนินคดีฟ้องร้องในทางแพ่งเพื่อเรียกร้องเอาเงินจากผู้ที่เอาเงินของวัดพระบาทน้ำพุ ไปอีก ร่วม 200 ล้านบาท

การดำเนินการในครั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หาใช่เพียงมุ่งแต่จับกุมผู้กระทำผิดเท่านั้น แต่ยังคงช่วยเหลือติดตามทรัพย์ จากผู้ที่แอบแฝงถือครองไว้ รวมทั้งหาผลประโยชน์ที่มิชอบจากวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อนำทรัพย์สินที่ซื้อด้วยเงินบริจาคของประชาชน ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคให้กับวัด นำกลับมาสู่วัด เพื่อบริหารจัดการให้ถูกต้องตามระเบียบ และกฎหมายต่อไป อีกทั้งยังคงมุ่งสืบสวนขยายผลหาผู้กระทำความผิดอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับการหาผลประโยชน์จากวัดพระบาทน้ำพุ ต่อไปอีกด้วย เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองใช้สิทธิขอให้การปฏิเสธ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แม่ทัพกุ้ง บรรยายพิเศษ เรื่องเล่าทหารกล้า รักษาอธิปไตย เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน
ทรัมป์ลงนามร่างกม.ยุติชัตดาวน์สหรัฐครั้งยาวนานที่สุด
โออาร์ จัดกิจกรรม “โออาร์ อาสาสานสุข” ต่อเนื่องปีที่ 5 จังหวัดลำปาง
"บิ๊กเล็ก" เผยโทรคุย "เตีย เซยฮา" เตือนหยุดยิงยั่วยุ แต่ไร้ตอบรับเชิงบวก ห่วง "ทหารเก่า" จ้อสื่อลงลึกแผนปฏิบัติการทหาร "กัมพูชา" นำต่อจิ๊กซอว์ตอบโต้ไทย
พุทธศาสนิกชนร่วม กิจกรรมยกยอครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนา ที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
สมุทรสงคราม///ชาวสุราษฎร์ฯ 6 ชีวิตเดินเท้า 600 กม. ร่วมถวายความอาลัย ‘พระพันปีหลวง’

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​