AP และ AFP รายงานว่าเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ทรัมป์ได้ลงนามผ่านร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้นภายในห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว ซึ่งส่งผลให้ภาวะชัตดาวน์ครั้งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมายุติลงอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางการเล่นเกมกล่าวหากันไปมาระหว่างริพับลิกันและเดโมแครต
ระหว่างการลงนามรับรอง ทรัมป์ได้ตำหนิพรรเดโมแครตว่าเป็นต้นเหตุของการชัตดาวน์ ซึ่งทำให้อเมริกาต้องกลายเป็นอัมพาตและพนักงานรัฐหลายแสนคนไม่ได้รับค่าจ้าง พร้อมเรียกร้องชาวอเมริกันให้จำเหตุความวุ่นวายที่เกิดขึ้นขณะไปใช้สิทธิเลือกตั้งกลางเทอมในปีหน้า
การลงนามรับรองร่างกฎหมายงบประมาณของทรัมป์มีขึ้นหลังจากร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรภายในวันเดียวกันด้วยคะแนน 222-209 และผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาในวันจันทร์
โดยร่างกฎหมายงบประมาณฉบับนี้จะช่วยให้หน่วยงานรัฐบาลกลางส่วนหนึ่ง มีงบประมาณเบิกจ่ายได้ถึง 30 มกราคม 2569 และหน่วยงานสำคัญบางแห่งจะได้งบประมาณตลอดปีหน้า
การสิ้นสุดของภาวะชัตดาวน์จะช่วยให้หลายหน่วยงานสำคัญกลับมาดำเนินงานได้ทันก่อนช่วงวันหยุดเทศกาลขอบคุณพระเจ้า และคริสต์มาส โดยพนักงานรัฐบาลกลางราว 670,000 คนจะกลับเข้ามาทำงาน ขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมการบินและเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสนามบินกว่า 6 หมื่นคนจะกลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลให้การจราจรทางอากาศค่อยๆกลับสู่ภาวะปกติ
โดยทรัมป์กล่าวหาพรรคเดโมแครตว่าสร้างความสูญเสียให้ประเทศ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 4.8 ล้านล้านบาท ขณะที่สำนักงบประมาณรัฐสภาสหรัฐประเมินว่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจครั้งนี้อยู่ที่ 14,000 พันล้านดอลล่าร์ หรือ ประมาณ 4 แสน 5 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตามสมาชิกพรรคเดโมแครตคนสำคัญรวมทั้งแกวิน นิวซัม ผุ้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียและผู้ว่ารัฐอิลินอยส์ต่างออกมาแสดงความไม่พอใจ โดยเรียกร่างกฎหมายดังกล่าวว่าน่าสมเพช เนื่องจากร่างกฎหมายไม่ตอบสนองข้อเรียกร้องของเดโมแครตที่ต้องการต่ออายุมาตรการยกเว้นภาษีบริษัทประกันสุขภาพเพื่อให้ชาวอเมริกันหลายล้านคนสามารถเข้าถึงประกันสุขภาพราคาถูก

