วันที่ 11 พ.ย. 2568 บรรยากาศที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน จังหวัดภูเก็ต เต็มไปด้วยพลังแห่งความภักดีและความสามัคคี เมื่อธงชาติไทยถูกชูโบกสะบัดเหนือศีรษะประชาชนชาวภูเก็ต นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เกิดการรวมพลครั้งใหญ่ของพี่น้องคนภูเก็ตนับพันคน เพื่อแสดงความรักชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมต้อนรับ พลโท บุญสิน พาดกลาง หรือ “แม่ทัพกุ้ง” นายทหารราชองครักษ์พิเศษ อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและล้นหลามจากทุกภาคส่วน โดยเมื่อเดินทางมาถึงได้จับมือทักทายน้องๆ เยาวชน ที่มารอต้อนรับ ทั้งนักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ตจำนวนมาก ที่เดินทางมาร่วมรับฟังแนวคิดและมุมมองของแม่ทัพกุ้งจนห้องประชุมเต็มทุกที่นั่ง ล้นไปถึงชั้นสองของห้องประชุม สะท้อนถึงความสนใจและศรัทธาที่มีต่อบทบาทของท่านอดีตแม่ทัพในการสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่และสังคมไทย ขณะเดียวกัน นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้มอบหลวงพ่อแช่ม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองภูเก็ต ให้แก่ พลโทบุญสิน เพื่อเป็นที่ระลึกและแทนความเคารพ ท่ามกลางเสียงปรบมือและความชื่นชมจากผู้เข้าร่วม ปิดท้ายด้วยการร้องเพลงชาติส่งกำลังใจให้กับทหาร

ก่อนเริ่มการบรรยาย พลโท บุญสิน พาดกลาง ได้นำผู้เข้าร่วมยืนสงบนิ่งเพื่อแสดงความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นเวลา 93 วินาที สร้างความซาบซึ้งและความประทับใจแก่ผู้ร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง

จากนั้น พลโท บุญสิน พาดกลาง ได้ขึ้นบรรยายพิเศษในหัวข้อ “Thai DNA หัวใจเพื่อแผ่นดิน” โดยเน้นย้ำความสำคัญของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ว่าเป็นเสาหลักของประเทศ ช่วยกำหนดทิศทางและค้ำจุนความมั่นคง ความเป็นเอกภาพ และการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งยังเป็นศูนย์รวมพลังใจที่ทำให้คนไทยร่วมมือกันพัฒนาชาติให้ก้าวหน้าต่อไป พลโท บุญสิน กล่าวถึงความหมายของสีธงชาติไทยว่า สีแดงคือประชาชนผู้มีคุณธรรมและเสียสละ สีขาวคือหลักคำสอนทางศาสนา ส่วนสีน้ำเงินคือสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ค้ำจุนทุกสี พร้อมฝากเยาวชนให้เป็น “รากแก้วของแผ่นดิน” สืบสานพลังความรักชาติและความสามัคคี ด้าน นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์จังหวัดภูเก็ตที่ประชาชนทุกภาคส่วนได้รวมใจเป็นหนึ่งเดียว เพื่อร่วมต้อนรับแม่ทัพกุ้งและแสดงพลังความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมขอบคุณที่ท่านเดินทางมาบรรยายพิเศษสร้างแรงบันดาลใจให้กับชาวภูเก็ต และแสดงความหวังว่าจะได้ต้อนรับอีกครั้งในปีหน้า ท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้องแห่งความภาคภูมิใจของคนภูเก็ตทั้งจังหวัด