ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 มอบให้ พ.อ.ณฑี ทิมเสน เสนาธิการกองพลทหารม้าที่ 1 พร้อมด้วย คุณสาลินี ไวยนนท์ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองพลทหารม้าที่ 1 นำคณะสมาชิกสมาคมแม่บ้านทหารบกสาขา กองพลทหารม้าที่ 1 เยี่ยมให้กำลังใจ ส.ท. สุวรรณ เป็งเชย กำลังพลในสังกัดกองพันทหารม้าเฉพาะกิจที่ 18 ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากลูกระเบิดขว้าง เป็นเหตุให้ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณใต้เปลือกตาด้านซ้าย

และเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ พลทหารธนดล อินตา สังกัด กองพันทหารม้าเฉพาะกิจที่ 10 ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากกสะเก็ดระเบิดของลูกจรวด BM-21 เป็นเหตุให้ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่บริเวณขาด้านขวา ซึ่งได้สอบถามอาการอย่างใกล้ชิด และสอบถามความคืบหน้าในการรักษา พร้อมให้กำลังใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กำกลังพลและครอบครัวในการดูแลสิทธิสวัสดิการ
โดยกำลังพลทั้งสองนายได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่บริเวณที่หมาย ฐานตำรวจตระเวนชายแดน 793 กัมพูชา ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี

จากนั้นเดินทางไปยังพื้นที่หมู่ 1 ต.โนนสวรรรค์ อ.นาจะหลวย จังหวัดอุบลราชาธานี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ จ.ส.อ.โสภณ ถมยา กำลังพลจากกองพันทหารม้าเฉพาะกิจที่ 18 ซึ่งได้บาดเจ็บจากอาวุธปืนเล็กยาว และลูกระเบิดขว้าง เป็นเหตุให้ถูกกระสุนปืนเล็กยาว บริเวณแขนด้านขวา และสะเก็ดระเบิดบริเวณขาด้านขวา บริเวณที่หมาย ฐานตำรวจตระเวนชายแดน 793 กัมพูชา ในพื้นที่ช่องอานม้า
ก่อนเดินทางไปยังโรงพยาบาลสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ จ.ส.ต.สุจินต์ จิตกรียาน กำลังพลสังกัด กองพันทหารช่างที่ 8 กองพลทหารม้าที่ 1 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติภารกิจราชการสนาม จากพื้นที่ฐานปฏิบัติการเสือดาว สัตตะโสม อ.กันทรลักษณ์ จว.ศรีสะเกษ ซึ่ง ได้รับบาดเจ็บเหยียบระเบิด ขาซ้ายขาด และมีแผลที่ตาซ้าย

ในการตรวจเยี่ยมกำลังพลทุกนาย ได้เข้าสอบถามอาการบาดเจ็บ ความเป็นอยู่และความคืบหน้าในการรักษาพยาบาลของกำลังพลอย่างใกล้ชิด พร้อมกับให้กำลังใจแก่กำลังพลทุกนายที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ จากการประเมินของแพทย์ผู้ดูแลรักษา อาการทางร่างกายของกำลังพลมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ ในส่วนของสภาพจิตใจยังต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู และเยียวยา
โอกาสนี้ พล.ต.สาธิต ไวยนนท์ ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 พร้อมด้วย คุณสาลินี ไวยนนท์ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองพลทหารม้าที่ 1 ได้มอบเงินช่วยเหลือเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่กำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมทั้งแสดงความห่วงใยต่อครอบครัวของกำลังพลทุกนาย โดยย้ำว่าผู้บังคับบัญชาในทุกระดับชั้นได้ฝากความห่วงใย และให้ความสำคัญสูงสุด ต่อสิทธิกำลังพล และสวัสดิการ และการดูแลกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้กำลังพลมีความมั่นใจ ว่ากองทัพบกจะยืนเคียงข้างและดูแลอย่างเต็มขีดความสามารถเพื่อให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีเพื่อพร้อมในการกลับมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ และประชาชน ต่อไป






