เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 5 พ.ย.68 “จูน” น.ส.พลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายประสม ดำรงพงษ์ ผู้อำนวยการ กองวิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงาน กรมโรงงานอุตสาหกรรม ชุดเคลื่อนทึ่เร็ว “เต็มเหนี่ยว”นายธนกร วังบุญคงชนะ รมว.อุตสาหกรรม ได้ลงพื้นที่ ไปที่โรงงานรีไซเคิลขยะ ของ บริษัท ม.7 ต.บ่อกวางทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี ตามการแจ้งเบาะแสของประชาชนในพื้นที่ว่าได้รับความเดือดร้อน ในการประกอบการรีไซเคิลขยะของ โรงงานแห่งนี้ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 5-6 ไร่ โดยพบคนงานจำนวนหนึ่งกำลังใช้เครื่องจักรรีไซเคิ่ลขยะ ภายในโรงงานมีกลิ่นขยะเหม็นฉุน ส่งกลิ่นตลบอบอวลตลอดเวลา บริเวณรอบโรงงานมีสภาพเปียกแฉะ มีกองขยะที่รีไซเคิลแล้วกองอยู่ โดยไม่มีการคลุมผ้าใบแต่อย่างใด โดยโรงงานแห่งนี้ มีตัวอาคารจำนวน 4 โรง แยกเป็นโรงงานคัดแยก 2 โรง และโรงใช้เพื่อสเปย์น้ำมันผสมกับขยะ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ พบว่าโรงงานแห่งนี้มีใบอนุญาตประกอบการ รง105รง106ถูกต้องตามกฎหมาย แต่การประกอบการไม่เป็นไปตาม มาตรฐานอุตสาหกรรม มีการนำเอาขยะที่คัดแยกมาวางไว้กลางแจ้งนอกตัวโรงงาน ทำให้ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว เจ้าหน้าที่ได้สั่งให้เปิด อาคารโรงงานที่สเปรย์น้ำมัน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เปิดเพราะทาง ผู้ประกอบการแจ้งว่าจะส่งกลิ่นรุนแรงจึงต้องปิดไว้
น.ส.พลอยลภัสร์ กล่าวว่า “ การเข้าตรวจสอบโรงงานแห่งนี้เบื้องต้นพบว่ามีการกระทำที่ไม่ถูกหลายอย่าง อุตสาหกรรมเน้นย้ำไปแล้วว่าต้องทำให้ถูกต้องตามกฏหมายเพราะเราต้องอยู่ร่วมกัน ไม่ให้กระทบสิ่งแวดล้อมและชุมชน ซึ่งต้องปรับปรุงแก้ไขทำให้ถูกต้อง นายประสม กล่าวว่า โรงงานแห่งนี้ขออนุญาตประกอบกิจการ 105106 มีการประกอบการหลายอย่างเช่นทำเชื้อเพลิงผสมคัดแยกขยะกันของเหลวจากทินเนอร์นำมาใช้ใหม่โดยโรงงานจะรับข่าวอุตสาหกรรมจากที่อื่นมาคัดแยกบำบัดกำจัดหลายกรณีมีการดำเนินการไม่ตรงกับใบอนุญาต การตรวจสอบวันนี้พบเห็นเป็นที่ประจักษ์หลายกรณีไม่ได้อยู่ถูกต้องตามกฏหมายร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเบื้องต้น อุตสาหกรรมจะออกคำสั่งให้ หยุดปฏิบัติในส่วนที่ผิดกฎหมาย
น.ส.วิไลลักษณ์ จีนศรี นักวิเคราะห์นโยบายฯ หัวหน้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า “ เงื่อนไขที่โรงงานไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรีก็จะมีการออกคำสั่งให้หยุดปฏิบัติในส่วนที่ฝ่าฝืนและก็จะตรวจตราติดตามการแก้ไขอย่างใกล้ชิดต่อไปตราบใดที่ยังแก้ไขไม่ถูกต้องอุตสาหกรรมจังหวัดคงให้ประกอบการต่อไม่ได้
น.ส.พลอยลภัสร์ กล่าวอีกว่า“ปัญหาหลักของโรงงานแห่งนี้คือโอกาสปนเปื้อนของกากขยะเพราะมีน้ำขัง ซึ่งอาจทำให้กระทบสิ่งแวดล้อมและชุมชน ต้องแก้ไขทำให้ถูกต้องตามนโยบาย รมว.อุตสาหกรรม ให้ความสำคัญในเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมกับชุมชน และนโยบาย ปิดเร็ว เปิดเร็ว พึ่งพาได้ ปิดเร็ว ถ้าตรวจพบการกระทำความผิด เปิดเร็วถ้าแก้ไขให้ถูกต้องตามมาตรฐานอุตสาหกรรม และประชาชนพึ่งพาได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ได้เก็บซากขยะกากอุตสาหกรรม และ แหล่งน้ำภายในโรงงาน ไปตรวจสอบอีกด้วย




