“ทัพบกไทย” ร่วมประชุม “ผบ.ทบ.” ภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก ครั้งที่ 14 เสริมสร้างร่วมมือทางทหาร-มั่นคงระดับภูมิภาค

ทบ.ร่วมประชุม ผบ.ทบ. ภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก ครั้งที่ 14 พร้อมหารือทวิภาคีร่วมกับ กกล.ทบ.สหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก, กองทัพน้อยที่ 1 ทบ.สหรัฐ และ ทบ.มาเลเซีย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

“ทัพบกไทย” ร่วมประชุม “ผบ.ทบ.” ภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก ครั้งที่ 14 เสริมสร้างร่วมมือทางทหาร-มั่นคงระดับภูมิภาค – Top News รายงาน

ทัพบกไทย

กองทัพบกเข้าร่วมการประชุม ผบ.ทบ. ภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก ครั้งที่ 14 (14th IPACC) ,การประชุมสัมมนาการบริหาร ทบ. ภาคพื้นอินโด – แปซิฟิก ครั้งที่ 49 (49th IPAMS) และ การประชุมนายทหารประทวนอาวุโส ครั้งที่ 11 (11th SELF) ระหว่าง 23-25 ก.ย.68 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมี พล.อ. ศานติ ศกุลตนาค หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เข้าร่วมการประชุม ภายใต้หัวข้อ “การเปลี่ยนแปลงภายใต้สถานการณ์จริง” (Transformation in Contact) โดย ทบ.มาเลเซีย เป็นเจ้าภาพร่วมกับ ทบ.สหรัฐฯ โดยมีกองทัพบกมิตรประเทศเข้าร่วมการประชุมกว่า 23 ประเทศ ในส่วนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วย กองทัพบกไทย, กัมพูชา, เวียดนาม, มาเลเซีย, บรูไน, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

โดย ผบ.ทบ. มาเลเซีย ได้กล่าวเปิดการประชุมฯ ภายใต้หัวข้อ “การสร้างความร่วมมือผ่านการติดต่อแบบเปิดเผย” โดยมุ่งเน้นความไว้วางใจ การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางยุทธศาสตร์และความร่วมมือระยะยาว เพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในอินโด–แปซิฟิก โดยเฉพาะการสื่อสาร ประสานงาน การฝึกร่วม ท่ามกลางความท้าทายและภัยคุกคามรูปแบบใหม่ อาทิ ภัยไซเบอร์ สงครามข้อมูลข่าวสาร และผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น และ พล.อ. โรนัลด์ พี คลาร์ค ผบ.กกล.ทบ.สหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก (Commanding General USARPAC) ในฐานะเจ้าภาพร่วมได้กล่าวขอบคุณ ทบ.มาเลเซียในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุม พร้อมกล่าวสุภาษิต “ไปเร็วไปคนเดียว ไปไกลไปด้วยกัน” เพื่อสะท้อนความสำคัญของความร่วมมือในภูมิภาคอินโด–แปซิฟิก

ข่าวที่น่าสนใจ

ในโอกาสนี้ หัวหน้าคณะ ฝสธ.ประจำผู้บังคับบัญชา พร้อมคณะ ได้หารือทวิภาคี ร่วมกับ พล.ท. โจเอล เจบี. วาวเวลล์ รอง ผบ.กกล.ทบ.สหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก โดยได้กล่าวถึงความร่วมมือทางทหาร โดยเฉพาะการฝึกร่วม ภายใต้รหัส Cobra Gold และ Hanuman Guardian สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของทั้งสองกองทัพ และความก้าวหน้าในการบูรณาการใช้เทคโนโลยีทางทหารร่วมกัน ซึ่งมีความจำเป็นในการปฏิบัติการรบหลายมิติ และยังได้กล่าวขอบคุณ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ที่มีความตั้งใจในการคลี่คลายสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

ทั้งนี้ทาง กกล.ทบ.สหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก (USARPAC) ได้ช่วยสนับสนุนทาง ทบ.มาเลเซีย ในฐานะประธาน IOT ในการตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ตามข้อตกลง และได้กล่าวชื่นชมการรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงของไทย ซึ่งต้องใช้ความอดทนอดกลั้นในการแก้ไขปัญหา ทั้งด้านชายแดนกัมพูชา ชายแดนเมียนมาและจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งต้องใช้หลักสันติภาพและนำความเทคโนโลยีเข้ามาช่วยคลี่คลายปัญหาเหล่านี้ให้มากที่สุด โดยทางฝ่ายกองทัพบกไทย ได้กล่าวยืนยันถึงความตั้งใจที่แก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขอบคุณที่ทางสหรัฐฯ มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายหาข้อตกลงหยุดยิงอย่างเป็นมิตรเพื่อความมั่นคงตามแนวชายแดน

 

 

และ หัวหน้าคณะนายทหาร ฝสธ. ประจำผู้บังคับบัญชา ได้หารือทวิภาคี กับ พล.ท. แมทธิว แมคฟาร์แลนด์ แม่ทัพน้อยที่ 1 ทบ.สหรัฐ (US Army I Corps) ซึ่งกองทัพน้อยที่ 1 ทบ.สหรัฐ จะเป็นแกนนำหลักในการฝึกผสม Cobra Gold ในปี 2569 โดยมีการเตรียมการด้านการฝึกผสม CPX หลายชาติ (Multinational CPX) ต่อเนื่องจากการฝึกในครั้งที่ผ่านมา อีกทั้ง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความสำคัญในการส่งเสริมขีดความสามารถด้าน Stryker การต่อต้านระบบอากาศยานไร้คนขับ (CUAS) ระบบบัญชาการควบคุมการรบ และระบบซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ โดยในส่วนของระบบ Stryker ไทยและสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะขยายเป็นกรอบความร่วมมือระยะยาว 10 ปี โดยมีทีมช่างเทคนิคจากสหรัฐฯ สนับสนุนการถ่ายทอดองค์ความรู้ และฝ่ายไทยได้จัดทำแผนบำรุงรักษาประจำปีเพื่อสนับสนุนโครงการอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ สำหรับการฝึก Cobra Gold ครั้งต่อไป จะมีการบรรจุการฝึกในเรื่องระบบ CUAS โดยมีการทดสอบระบบหลายแบบ รวมทั้งสิ้น 6 ระบบ ทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันว่าการพัฒนาขีดความสามารถในด้านนี้มีความจำเป็น เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางยุทธการมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และต้องพัฒนาหลักนิยมควบคู่ไปอย่างต่อเนื่อง

 

 

นอกจากนี้ ได้หารือทวิภาคี ร่วมกับ พล.อ. ดาโต๊ะ ฮาฟิซ ผบ.ทบ.มาเลเซีย โดย ผบ.ทบ.มาเลเซีย มอบปีกร่มกิตติมศักดิ์ของกองทัพบกมาเลเซียให้กับหัวหน้าคณะฯ และขอฝากความระลึกถึงความหวังดีไปยัง ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งที่ผ่านมาได้มีโอกาสพบป่ะหารือกับผู้บัญชาการทหารบก ทำให้เข้าใจและรับทราบปัญหาความขัดแย้งระหว่างชายชายแดนไทยกัมพูชาที่เกิดขึ้น โดย ทบ.มาเลเซีย พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาในทุกด้าน หวังว่าปัญหานี้คงจะคลี่คลายโดยเร็ววัน และประชาชนของทั้งสองฝ่ายกลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง ซึ่งฝ่ายไทยได้กล่าวขอบคุณทบ.มาเลเซีย ที่เข้าใจและรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น ยืนยันกองทัพบกต้องการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ ขอบคุณสำหรับการจัดตั้งคณะสังเกตการณ์การหยุดยิงของมาเลเซีย หวังว่าจะปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

โดยการประชุมในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งจะมีการจัดประชุมในทุก ๆ 2 ปี เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางทหารและความมั่นคงในระดับภูมิภาคแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หารือเกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงร่วมกันและแนวทางในการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพในแต่ละประเทศ เพื่อความมั่นคงในภูมิภาคต่อไป

       

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ธนกร" ร่วมงานวันเกิด "ฐาปกรณ์ กุลเจริญ" พร้อมรับฟังความเห็นชาวพระประแดง เผยชาวบ้านชื่นชมนายกฯ สานต่อโครงการคนละครึ่ง มอบกองทัพแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) Haier ลงทุนครั้งใหญ่ในไทย เปิด 'โรงงานผลิตแอร์' แห่งใหม่
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) สะพานสูงสุดในโลกในกุ้ยโจว เตรียมเปิดจราจร 28 ก.ย.
รวบหนุ่มรัสเซียเปิดเช่ารถพะงัน แย่งอาชีพคนไทย
แตกตื่นทั้งโรงเรียน! ไฟไหม้บ้านลุงวัย 67 ปี
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'ภูเขาหมิงซาซาน-ทะเลสาบจันทร์เสี้ยว' ในตุนหวง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​