“ผู้ว่าฯกทม.” สั่งสแกนโพรงถนนสามเสนทั้งหมด เข้มปลอดภัย คาดใช้ปูน 1,000 ตัน เทอุดรอยรั่ว-สิ่งกีดขวาง อุโมงค์ถนนทรุดตัว

ขณะที่ นายสุเทพ เอื้อปกรณ์ รองผู้ว่าการการประปานครหลวง ระบุว่า สาเหตุที่มีน้ำรั่วซึมบนถนนสามเสนขาเข้า เนื่องจากว่าเรามีการปรับระบบ สูบจ่ายน้ำ เนื่องจากหน้า รพ.วชิรพยาบาล ระบบท่อขาดไป  จึงต้องมีการปรับระบบเพื่อให้ประชาชนมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ ทำให้จุดดังกล่าวมีแรงดันน้ำที่สูงขึ้นมากกว่าปกติ จนเกิดการเอ่อซึมขึ้นมาเป็นจุดตามที่ปรากฏ

จากการขุดลงไปไม่พบว่าเป็นโพรงใต้ดิน ปัจจุบันเราได้มีการอุดหน้าจานท่อที่จะข้ามไปบริเวณตรงข้ามซึ่งมีขนาด 15 เซนติเมตร ซึ่งเมื่อทำการอุดหน้าจานแล้วเสร็จ ก็ไม่ได้เกิดน้ำซึมบนถนนแล้วแต่อย่างใด สำหรับท่อดังกล่าวคือท่อเก่าที่เมื่อก่อนเคยมีการจ่ายน้ำ แต่ตอนนี้ไม่มีการใช้งานแล้ว และปัจจุบันก็ได้ทำการปิดการจ่ายน้ำเรียบร้อย

ต่อมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า อุปสรรคสำคัญในการเทปูน คือปูนอาจจะลงไปไม่ถูกจุด แต่พอมันเซตตัวมันก็จะปิดรูรั่วได้ เมื่อถามว่ามีวิธีที่จะบังคับปูนให้ลงไปถูกจุดหรือไม่ นายชัชชาติ ระบุว่า เนื่องจากปูนเป็นวัสดุที่สามารถไหลได้การจะเทให้ลงตรงจุดเลย ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเราไม่รู้ว่าข้างล่างเป็นอย่างไร จึงมีการใช้กระสอบทรายหย่อนลงไปด้วยเพื่อช่วยในการอุดรู พอทำงานร่วมกันพื้นก็จะเต็ม โดยปูนที่ใช้เทลงไปนั้น เป็นปูนที่ไม่ได้มีกำลังสูงมาก เพราะในอนาคตจะต้องมีการรื้อถอนออกไม่ใช่วัสดุปูพื้นถาวร

นอกจากนี้ นายชัชชาติยัง ระบุว่าอุปสรรคตอนนี้ คือการอุดรูอุโมงค์ ซึ่งมีแผ่นเศษปูนขวางอยู่ 5 ชิ้น มีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 30 ตัน ซึ่งจะเป็นอันตรายถ้าหากมีการยก หรือเคลื่อนย้าย จึงเป็นที่มาของการตัดสินใจปรับเปลี่ยนแผนเป็นการเทคอนกรีตเข้าไปแทน

นายชัชชาติ บอกว่าคาดว่าในการเทปูนน่าจะต้องใช้เป็น 1000 คิวหลังจากเทปูนเสร็จก็ต้องเอาหินคลุกเทผสมลงไป ทุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอนอยู่แล้ว เมื่อขั้นตอนบนหลุมเสร็จ ก็ยังมีขั้นตอนใต้ดิน คือภายในอุโมงค์ ที่ในอนาคตจะต้องมีการรื้อถอน แต่ตนมองว่าเรื่องนี้ยังอีกยาว แต่ก็เป็นภารกิจของรฟม.เจ้าของโครงการที่จะต้องดำเนินการ

ส่วนท่อน้ำประปาที่แตกระหว่างหลุมทรุด นายชัชชาติ มองว่า ควรทำควบคู่กันไปเลยดีกว่าการไปเจาะ และซ่อมใหม่ ตนไม่อยากกดดันก็ให้การประปานครหลวงให้ทำไปตามขั้นตอน ไม่ได้เร่งรีบอะไรขอให้ปลอดภัยทุกขั้นตอน จะพยายามทำให้เร็วที่สุดแต่คงเร่งรัดไม่ได้