“บิ๊กเล็ก” ซัด “เขมร” ใส่ร้ายไทย ละเมิดหยุดยิง ลั่นไม่คุยแล้วเรื่องเปิดด่าน ความมั่นคงประเทศสำคัญสุด

ส่วนกรณีที่รัฐบาลกัมพูชาไปร้องเรียนว่าไทยมีการใช้มาตรการปฏิบัติที่รุนแรงต่อประชาชนคนกัมพูชา ตนจึงตั้งคำถามไปยังกัมพูชาว่า วิญญูชนคนกัมพูชา เข้าใจหรือไม่ว่า “ม็อบกับตำรวจปราบฝูงชนอะไรมันมาก่อนกัน” ถ้าไม่มีม็อบจะมีตำรวจได้อย่างไร ย้ำว่า กัมพูชาทำก่อนซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดต่ออนุสัญญา ตนจึงได้ฝากรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศที่เดินทางไปประชุมที่ UN ว่า ต้องมีการชี้แจงเรื่องดังกล่าวให้กับ UN รับทราบ ว่ากรณีที่กัมพูชาใช้ผู้หญิง ใช้เด็ก ใช้พระ มาเป็นโล่มนุษย์นั้นมันผิด จึงขอให้แจ้งให้ชาวโลกได้รับทราบ

พลเอกณัฐพล ยังกล่าวอีกว่า กรณีการเปิดด่านตนย้ำว่ามันจบแล้ว ตั้งแต่ที่ตนมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตนไม่คุยแล้วเรื่องเปิดด่าน แต่จะคุยเรื่องความมั่นคงอย่างเดียว

เมื่อถามว่า หลังวันที่ 10 ต.ค.2568 หากไม่มีสัญญาณอะไรจากกัมพูชากรณีบ้านหมองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว จะสามารถบังคับใช้กฎหมาย ได้ตามปกติหรือต้องนำเข้าที่ประชุม สมช.ก่อนจึงจะดำเนินการได้ พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า ไม่ต้องรอเพราะอยู่ในเขตไทย เราใช้กฎหมายไทย แต่วันที่ 10 ต.ค.2568 เราคุยกับฝ่ายกัมพูชา ปัจจุบันตนไม่ค่อยสบายใจนัก หลังจากที่กลับมาจากการประชุม GBC เนื่องจากกัมพูชามีการโยนไปมาเรื่องการพูดคุยว่าต้องคุยในที่ประชุมนู้นที่ประชุมนี้ ซึ่งมันวนไปวนมา ขณะนั้นตนเป็นประธานการประชุม GBC ฝ่ายไทย และได้รับอำนาจในการตัดสินใจ แต่ขณะที่ฝ่ายกัมพูชายังตกลงใจกันไม่ได้และต้องกลับไปทำถามรัฐบาล และเมื่อหลังที่ตนกลับมาก็มีการประเมินสถานการณ์หลังการประชุมได้ข้อสรุปว่ายังไม่มีความคืบหน้าและต้องมีการทบทวนกันแล้ว