สภากทม.ร้อนปุด “สก.นภาพล” ชี้แผนจ่ายหนี้ BTS ไม่ชัด ดอกเบี้ยสะสมวิกฤต “สก.สุทธิชัย” ย้ำระวังเอกชนขาดสภาพคล่อง

สภากทม.ร้อนปุด "สก.นภาพล" ชี้แผนจ่ายหนี้ BTS ไม่ชัด ดอกเบี้ยสะสมวิกฤต "สก.สุทธิชัย" ย้ำระวังเอกชนขาดสภาพคล่อง

วันที่ 16 ก.ค.2568 ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สาม นายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย ได้เสนอญัติขอให้กรุงเทพมหานครรายงานความคืบหน้าการดำเนินการชำระหนี้ ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง หรือ O&M ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ในส่วนที่ค้างชำระ

โดยนายนภาพล กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ค่าจ่างเดินรถและค่าซ่อมบำรุงที่มีภาระหนี้ตั้งแต่ กทม. เข้ามาดำเนินการ มีหนี้ที่ค้างชำระค่อนข้างมาก ถึงจะจ่ายบางส่วนไปแล้ว ซึ่งผู้ว่าฯกทม.ได้ในสัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า จะนำไปพิจารณาว่าการเร่งรัดจ่ายหนี้เพื่อลดภาระดอกเบี้ย 5.4 ล้านบาทต่อวัน จะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ เบื้องต้นจะทยอยจ่ายทีละงวด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับหนี้ของ กทม.นั้น ก้อนแรกที่ชำระไปแล้วตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด จำนวน 14,476 ล้านบาท ต่อมาหนี้ก้อนที่ 2 ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ที่ยังไม่ชำระ ถูกศาลสั่งฟ้องอยู่ตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2564 – ตุลาคม 2565 ขณะนี้ต้องชำระเงินต้น 10,127 ล้านบาท ดอกเบี้ย 8% รวมต้องชำระ 12,345 ล้านบาท

ส่วนหนี้ค่าจ้างเดินรถและค่าซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2 ตั้งแต่พฤศจิกายน 2565 – ธันวาคม 2567 ที่ถึงกำหนดแล้วแต่ยังไม่ได้ฟ้อง มีหนี้ค้างชำระอยู่ 14,235 ล้านบาท รวมดอกเบี้ย 15,499 ล้านบาท และหนี้ในอนาคตจากประมาณการค่าจ้าง 6,248 ล้านบาท หากไม่ชำระตามสัญญาจะต้องเสียดอกเบี้ย 8% เช่นกัน ส่วนภาระดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งหมด 1,066 ล้านบาท หากเรายังไม่ชำระหนี้ ดอกเบี้ยจะทวีคูณขึ้นไปอีก

นายนภาพล กล่าวอีกว่า คำถามคือหนี้ที่เกิดขึ้นจากสัญญาทั้งสองฉบับที่ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาว่าชอบด้วยกฎหมาย ประกอบกับทาง กทม. ได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด และได้นำค่าโดยสารส่วนต่อขยายที่ 1 มาชำระค่า O&M หลังจาก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว แสดงว่า กทม. ยอมรับว่าสัญญาที่มีอยู่ชอบด้วยกฎหมาย แต่หากเห็นว่าไม่ถูกต้องก็ไม่สามารถจ่ายได้ เหตุใดทาง กทม.จึงไม่เสนอของบประมาณเพื่อชำระหนี้ในส่วนต่อขยายที่ 1 ทั้งหมด

 

ส่วนหนี้ค่าจ้างเดินรถและค่าซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายที่ 2 กทม. ชำระหนี้ให้ BTS ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ส.ก.นภาพล ชี้ว่าจะเห็นได้ชัด กทม.รับว่าสัญญาดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน อีกทั้งส่วนต่อขยายที่ 2 ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการถูกป.ป.ช. ชี้มูลแต่อย่างใด นอกจากนี้ผู้ว่าฯ กทม.ได้ออกประกาศเรื่องการกำหนดค่าโดยสาร ส่วนต่อขยายที่ 2 โดยกำหนดในอัตราคงที่ 15 บาท ตลอดสาย ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2567 ทำให้มีรายได้จากการจัดเก็บค่าโดยสารที่ผู้รับจ้าง หรือ BTS ส่งให้ กทม.ประมาณเดือนละ 100 ล้านถึงปัจจุบันประมาณ 1,800 ล้านบาท ซึ่งเงินค่าโดยสารที่เก็บได้ มีเหตุผลใดไม่นำมาชำระค่าจ้างเดินรถและค่าซ่อมบำรุง จะได้ลดภาระดอกเบี้ย พร้อมเตือนว่าผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต้องคิดให้ดีว่าหากสู้จนถึงแพ้คดีอีกครั้ง ซึ่งไม่แน่ว่าจะจบในปีนี้หรือไม่ และต่อไปอาจจะมีคดีใหม่เกิดขึ้นอีกหรือไม่ ดอกเบี้ยที่เกิดในปัจจุบันและในอนาคตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากปล่อยไว้เช่นนี้ กทม. เสียหาย

 

ด้านนายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง กล่าวว่า สัญญาที่ กทม.จ้างบริษัทบีทีเอสเดินรถ เงินค่าโดยสารที่ได้ม าสามารถนำไปใช้ในกิจการเดินรถเท่านั้น และหากการจัดเก็บค่าโดยสารไม่พอ ต้องตั้งงบประมาณมาจ่ายให้ครบ ขณะนี้ปัญหาคือจัดเก็บค่าโดยสารไม่พอและไม่ได้ขอจัดสรรงบประมาณมาให้ครบ ทำให้ภาระหนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงน่าเป็นห่วงว่ากทม.ได้จ่ายค่าจ้างเดินรถให้BTSหรือยัง ถ้าBTSขาดสภาพคล่อง ไม่มีงบในการเดินรถจะทำอย่างไร ประกอบกับดอกเบี้ยที่ยังคงเดินอยู่ทุกวันนี้ เป็นจำนวนที่สูงน่ากลัวมาก จึงขอให้ฝ่ายบริหารเร่งดำเนินการ

 

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่าไม่ได้ละเลย ที่ผ่านมาเราชำระหนี้ไป 38,000 ล้านบาทแล้ว ต้องย้ำว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนที่พวกเราเข้ามา ดังนั้นการไม่จ่ายเงินเลยต่อเนื่องมา ส่วนข้อมูลที่มีการอภิปรายมาก็ขอให้บันทึกในรายงานการประชุมเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาในอนาคต และต่อไปก็ต้องมีคนเข้ามาสอบสวนละเอียด เบื้องต้นเข้าใจว่าได้ชำระไปแล้ว 2 ส่วน เราพยายามลดหนี้ แต่ก็ต้องระวังเพราะยังมีคดีอยู่ในศาล อาจจะถูกอ้างได้ว่าสัญญามีผล ส่วนสัญญาจะเป็นโมฆะหรือไม่ เราไม่มีอำนาจตัดสิน เพราะหลายเรื่องมีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง ที่ผ่านมาเราไปเจรจาก่อนและเร่งจ่ายเงินซึ่งเราก็ทำ เราไม่ได้หยุดนิ่ง แต่จะต้องทำทุกอย่างให้รอบคอบ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จับตาคกก.สืบสวน "กกต." สรุปเอาผิด 138 สว. 91 "กก.บห.ภูมิใจไทย-คนเกี่ยวข้อง" ร่วมผิดฮั้วเลือกสว.
"ศาลรธน." ลงมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องอดีตผู้สมัคร ร้องเอาผิด กกต." จัดเลือกสว.ผิดกม. "กก.บห.-พรรคภูมิใจไทย" ฮั้วสรรหามิชอบ
"จตุพร" ชี้ร่างกม.นิรโทษฯต้องรอบคอบพิจารณาขอบข่าย ยกพระราชประสงค์สถาบันฯเป็นหลัก ถ้าคิดช่วยคนโดนคดี 112 ควรวางเป็นโมเดล วางกรอบลงโทษเพิ่มให้หนัก ถ้าก่อเหตุซ้ำ
กรมส่งเสริมสหกรณ์ วางมาตรการรับมือผลผลิตผลไม้ปี 2568 พร้อมสนับสนุนรวบรวมและกระจายผลผลิต ผ่านสหกรณ์ เพิ่มช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
"สหพัฒน์" เปิดตัวโครงการ "Sahapat Admission" ปีที่ 28 ติวฟรี ติวเข้มข้นทุกสนามสอบ เดินหน้าเปิดโอกาสทางการศึกษาให้น้อง ๆ ทั่วประเทศ
"3 หน่วยงานรัฐ" ขอพบ " พระพรหมบัณฑิต" ตรวจเอกสารบัญชี "วัดประยุรวงศาวาสฯ" โยงอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์-สีกากอล์ฟ ยักยอกเงินบุญบริจาค
NT ร่วมลงนามกับ Security Pitch พัฒนาเทคโนโลยี เสริมความเชื่อมั่นดิจิทัลระดับชาติ
คืนเดียว "จับกุม 38 ชีวิต" ลักลอบเข้าไทย "แรงงานเถื่อน" เผยกลับกัมพูชาไม่มีงานทำ-ขาดรายได้
“แม่ทัพภาค2” เดือด! หญิงเขมรหยามลูกน้อง จี้ผู้นำกัมพูชาลากคอมาขอโทษ
"คปท." สวนกลับพรรคส้ม เรียกร้องนิรโทษคดี 112 ซัดต้องย้อนไปขอโทษคนติดคุก ทำให้พวก 3 นิ้ว สำนึกผิดก่อน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น