คืนเดียว “จับกุม 38 ชีวิต” ลักลอบเข้าไทย “แรงงานเถื่อน” เผยกลับกัมพูชาไม่มีงานทำ-ขาดรายได้

จับกุม 38 ชีวิต! ในคืนเดียว ลักลอบเข้าไทย เจอทั้งแอดมินเว็บพนัน-แรงงานข้ามชาติ-บัญชีม้า-หมายจับ เเละคดีเเจ้งความออนไลน์ เผยกลับกัมพูชาไม่มีงานทำ ขาดรายได้

คืนเดียว “จับกุม 38 ชีวิต” ลักลอบเข้าไทย “แรงงานเถื่อน” เผยกลับกัมพูชาไม่มีงานทำ-ขาดรายได้ – Top News รายงาน

 

จับกุม 38 ชีวิต

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ กองกำลังบูรพา, ฉก.อรัญประเทศ ชุดควบคุมกรมทหารที่12 โดยร้อย.ทพ.1206 เข้าทลายขบวนการลักลอบเข้าเมืองล็อตใหญ่ หลังได้รับเบาะแสและวางกำลังซุ่มเฝ้าตรวจในพื้นที่ไร่อ้อยท้ายหมู่บ้านกุดหิน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สามารถควบคุมตัวผู้ลักลอบเข้าเมืองได้มากถึง 25 คน ในขณะที่ผู้นำพา 3 คนอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไปได้ โดยในกลุ่มผู้ถูกจับกุม 25 คนนี้ ประกอบด้วยคนไทย 5 คน และชาวกัมพูชาอีก 20 คน (รวมเด็กชาย 1 คน) ซึ่งถูกลักลอบนำเข้ามาในขบวนเดียวกัน

ข่าวที่น่าสนใจ

จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า กลุ่มชาวกัมพูชาส่วนใหญ่เป็นอดีตแรงงานในประเทศไทยที่เดินทางกลับบ้านเกิดไปแล้ว แต่ต้องเผชิญกับภาวะไม่มีงานทำและขาดรายได้ จึงยอมจ่ายเงินคนละ 2,500-4,000 บาท เพื่อกลับเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ และจังหวัดภาคตะวันออก ขณะที่กลุ่มคนไทยเป็นผู้ที่ทำงานอยู่ในกัมพูชาและต้องการกลับประเทศ แต่ต้องยอมจ่ายค่าหัวให้ขบวนการลักลอบในราคาที่สูงกว่า คือ 3,500-6,000 บาท

 

ต่อมาชุดที่ 2 กองกำลังบูรพา ฉก.อรัญประเทศ, ชค.ทพ.12 และร้อย.ทพ.1204 ซึ่งทำงานร่วมกับผู้ใหญ่บ้านโนนสาวเอ้ เข้าจับกุมกลุ่มคนไทยจำนวน 10 คน (ชาย 6, หญิง 4) ขณะกำลังเดินเท้าลัดเลาะในไร่อ้อย เพื่อข้ามแดนจากฝั่งกัมพูชากลับเข้าประเทศไทย จากการสอบสวนเบื้องต้นทั้งหมดให้การยอมรับว่า เดินทางกลับมาจากการทำงานเป็นแอดมินให้กับเว็บพนันออนไลน์หลายแห่งในพื้นที่กรุงปอยเปต และกำลังจะเดินทางกลับประเทศไทย แต่เนื่องจากไม่มีเอกสารเดินทางที่ถูกต้อง จึงต้องใช้วิธีลักลอบผ่านช่องทางธรรมชาติ

 

 

 

 

ชุดที่ 3 กองกำลังบูรพา ฉก.อรัญประเทศ, ชค.ทพ.12 และร้อย.ทพ.1204 ได้ลาดตระเวนเดินเท้าในพื้นที่เสี่ยงบริเวณแนวชายแดน จ.สระแก้ว ขณะปฏิบัติหน้าที่ได้จับกุมกลุ่มบุคคลไม่ทราบสัญชาติ จำนวน 3 คน เดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติ (ไร่อ้อย) ในพื้นที่บ้านหนองปรือ หมู่7 ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ หลังการตรวจสอบ พบว่าเป็นบุคคลสัญชาติไทย ซึ่งอ้างว่าต้องการเดินทางไปทำงานก่อสร้างที่ประเทศกัมพูชา โดยใช้ช่องทางธรรมชาติลักลอบข้ามคลองกั้นเขตแดน (คลองน้ำใส) ไปยังฝั่งกัมพูชา

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้งหมดไปสอบสวนเพื่อขยายผลถึงเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะส่งตัวให้ สภ.คลองน้ำใส ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"รมช.กลาโหม" ลงพื้นที่ช่องสะงำ ขอให้กำลังพลทุกนาย อดทนอีกนิด เผยเตรียมผ่อนปรนรถขนส่งสินค้าข้ามแดน
“วิสุทธิ์” ยันปัดตีตกกม.นิรโทษคดี 112 เชื่อมีทางอื่นช่วยเด็กติดคุกได้ ย้ำสิ่งสำคัญต้องสร้างสามัคคีให้บ้านเมือง
ไฟไหม้ห้างเปิดใหม่ที่อิรักดับกว่า 60 คน
เกาหลีใต้เผชิญฝนตกหนักที่สุดในรอบกว่า 120 ปี
“คำนูณ” ชวนจับตา คำตัดสินศาลรธน. คดี "พิเชษฐ์" โยกงบฯ ปี 69 ขัดรธน. มาตรา 144
ศาลรธน. สั่ง “วุฒิสภา-ภูมิธรรม-ทวี” ยื่นพยานใน 15 วัน ปมถูกร้องแทรกแซงสอบฮั้ว สว.
"กองทัพภาคที่ 2" ชี้แจงเหตุการณ์ทหารเหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนพื้นที่ช่องบก จ.อุบลฯ เผยรอผลผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ "วัตถุระเบิด" ของเก่าหรือใหม่
จับตาคกก.สืบสวน "กกต." สรุปเอาผิด 138 สว. 91 "กก.บห.ภูมิใจไทย-คนเกี่ยวข้อง" ร่วมผิดฮั้วเลือกสว.
"ศาลรธน." ลงมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องอดีตผู้สมัคร ร้องเอาผิด กกต." จัดเลือกสว.ผิดกม. "กก.บห.-พรรคภูมิใจไทย" ฮั้วสรรหามิชอบ
"จตุพร" ชี้ร่างกม.นิรโทษฯต้องรอบคอบพิจารณาขอบข่าย ยกพระราชประสงค์สถาบันฯเป็นหลัก ถ้าคิดช่วยคนโดนคดี 112 ควรวางเป็นโมเดล วางกรอบลงโทษเพิ่มให้หนัก ถ้าก่อเหตุซ้ำ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น