3 ป. ผนึกกำลังบุกจับ “ปลัดอ.สันทราย” รีดเงินค่าธรรมเนียม บัตรคิวขึ้นทะเบียนแรงงานเกินจริง

3 ป. ผนึกกำลังบุกจับ "ปลัดอ.สันทราย" รีดเงินค่าธรรมเนียม บัตรคิวขึ้นทะเบียนแรงงานเกินจริง

วันนี้ ( 11 ก.ค.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) , พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) พร้อมเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 4 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการะทำความผิดประพฤติมิชอบ ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) โดยนายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ นายนิรันดร ศรีภักดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่ และ นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) ร่วมกันจับกุม นายบุญญฤทธิ์ อายุ 56 ปี ปลัดอำเภอสันทราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 5 ที่ 21/2568 ลง 27 มิ.ย.68 ฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 , 157 โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ ศูนย์บริหารการทะเบียน ภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ปราบทุจริตทั้ง 3 หน่วย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหาย ซึ่งเปิดบริษัทนำคนต่างด้าวมาทำงานในพื้นที่ และเป็นตัวแทนรับดำเนินการขึ้นทะเบียนแรงงาน (บัตรชมพู)ว่า ได้ยื่นคำร้องขอนัดคิวทำบัตรฯ ต่อ สนง.ทะเบียนภาค 5 จำนวน 600 ราย แต่ไม่เคยได้รับคิวทำบัตร กระทั่งได้รับทราบจากนาง เอ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นกลุ่มนายหน้ารับทำบัตรฯเช่นกัน แจ้งว่า จะต้องเสียค่าหัวคิวให้นายบุญญฤทธิ์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม รายละ 200 บาท โดยแบ่งเป็นค่าธรรมเนียมบัตร 80 บาท ส่วนอีก 120 บาท เป็นค่าใช้จ่ายให้ ปลัดบุญฤทธิ์ เป็นค่าหัวคิว

 

 

 

 

 

 

 

 

หลังทราบข้อมูล เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.4 บก.ปปป. พร้อม เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ จนท.ปปท. จึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐานกระทั่งทราบว่า มีกลุ่มตัวแทนที่รับดำเนินการขึ้นทะเบียนแรงงาน (บัตรชมพู) จริง สอบถามผู้เกี่ยวข้องก็ยืนยันว่า กลุ่มตัวแทนนายหน้ารายอื่นๆ ก็จะต้องจ่ายเงินค่าหัวคิวให้แก่ นายบุญญฤทธิ์ เช่นกัน ซึ่งในแต่ละวันจะมีแรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียน ไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย คิดเป็นเงินค่าหัวคิววันละ 200,000 บาท

 

โดยขบวนการนี้ มีพฤติการณ์เรียกรับเงินค่าธรรมเนียมและค่าดำเนินการในการจัดทำบัตรชมพู (ทะเบียนประวัติคนต่างด้าว) สูงถึง รายละ 200 บาท ทั้งที่อัตราค่าธรรมเนียมตามกฎหมายกำหนดไว้เพียง 80 บาท ต่อรายเท่านั้น และมีการสร้างระบบ ผูกขาดโควตา โดยหากตัวแทนรับจ้างรายใดไม่ยอมจ่ายเงินส่วนต่างที่เรียกเก็บ ก็จะไม่สามารถจองคิวเพื่อนำแรงงานเข้าระบบได้ จากข้อมูลพบว่า ศูนย์ดังกล่าวมีศักยภาพในการทำบัตรให้คนต่างด้าวได้ประมาณ วันละ 1,000 ราย ซึ่งหมายถึงเงินนอกระบบที่สะพัดในขบวนการนี้มีมูลค่ามหาศาล

พนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ( บก.ปปป. )จึงรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ออกหมายค้นและหมายจับก่อนจะนำกำลังเข้าจับกุม สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนบก.ปปป. เพื่อดำเนินคดีต่อไป.

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แม่น้ำเลยล้น ท่วมริมตลิ่งเมืองเลย-วังสะพุง จนท.เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำกำลังสูงระบายน้ำออกจากพื้นที่ชุมชน 3 จุด
โฆษกพรรคภท. ประกาศพร้อมลุยศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่เกี่ยวเพื่อไทยขู่ยุบสภา ไม่ก้าวล่วงปชน.โหวตใครนั่งนายกฯ เตรียมรับมือสถานการณ์การเมือง
สระแก้ว  จับแรงงาน เขมร จีน ไทย 3 กลุ่มลักลอบข้ามแดน 24 คน จ.สระแก้ว
ผอ.สุรนารีวิทยาฯ ยันไม่ทิ้งมาตรฐานการเรียน ดูแลเด็กกิจกรรมพิเศษ พร้อมหนุนวงโย–วอลเลย์บอลสู่เวทีโลก
เชียงใหม่ สวนสัตว์เชียงใหม่ ต้อนรับผู้อำนวยการคนใหม่ เริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ
วังสะพุงอ่วม น้ำทะลักท่วมบ้านเรือนราษฏร เจ้าหน้าที่เร่งเข้าช่วยเหลือ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​