ตร.ไซเบอร์ เร่งตรวจบัญชีม้า ขานรับคำสั่งนายกฯ ยกระดับปราบแก๊งคอลฯ

ตร.ไซเบอร์ เร่งตรวจบัญชีม้า ขานรับคำสั่งนายกฯ ยกระดับปราบแก๊งคอลฯ

จากกรณีที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาประกาศอาสาเป็นเจ้าภาพร่วมกับต่างประเทศปราบปรามสงครามแก๊งคอลเซนเตอร์อย่างจริงจัง ยกระดับความเข้มข้นตัดไฟตัดอินเทอร์เน็ต และห้ามคนไทยรวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางไปเล่นการพนันที่ปอยเปต พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยขีดเส้นตายตั้งค่า KPI การทำงานของเจ้าหน้าที่ต้องเห็นผลภายในระยะเวลา 3 เดือน

วันนี้ (24 มิ.ย.68) ทีมข่าว Top News ได้สอบถามไปยัง พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. ถึงการดำเนินการเรื่องปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์หลังจากนี้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อและมีขั้นตอนอย่างไร โดยพลตำรวจโทไตรรงค์ เผยว่า การปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ ทางตำรวจไซเบอร์ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด หลังจากที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้ประกาศทำสงครามกับแก๊งคอลเซนเตอร์อย่างจริงจัง ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้เร่งดำเนินการ รวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานในการที่จะติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี โดยเฉพาะพวกบัญชีม้า ที่จะต้องให้ทาง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบในการขยายผล พร้อมลดระเบียบขั้นตอนในเชิงปฏิบัติลดน้อยลง เพื่อจะได้ขับเคลื่อนที่รวดเร็วขึ้น เชื่อว่าหลังจากนี้จะเห็นผลงานในการดำเนินการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ที่มากขึ้น

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทีมข่าวยังได้สอบถามถึงคดีที่ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ บช.สอท. กรณีปรากฏคลิปเสียงการพูดคุย ระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฯฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่าในคดีดังกล่าวมีความคืบหน้าอย่างไร โดย พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. เผยว่า

ตอนนี้ได้ดำเนินการให้ฝ่ายสืบสวนให้สอบปากคำผู้กล่าวหาไว้แล้วและรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานทั้งหมด ซึ่งตอนนี้สอบปากคำไปเพียงคนเดียวคือผู้กล่าวหา ส่วนจะมีการเชิญท่านนายกฯที่เป็นผู้เสียหาย หรือ ผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับทางอัยการสูงสุดจะพิจารณาสั่งพนักงานสอบสวนอีกที แต่ต้องหลังจากเรารวบรวมพยานหลักฐานชั้นต้นพิจารณาเห็นว่าการกระทำของสมเด็จฯฮุนเซนมีความผิดตามกฎหมายประเทศไทยจริง และเกิดขึ้นที่นอกราชอาณาจักร ก็จะต้องรายงานไปยังอัยการสูงสุดให้ทราบ คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า จะมีความชัดเจนและบทสรุปมากขึ้น เนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชาชนกำลังติดตามและให้ความสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นิด้าโพล" เผยปชช.ส่วนใหญ่ อยากเห็นยุบสภาฯ ไม่ต้องรอ 4 เดือน เห็นด้วยแก้รธน.รายมาตรา ไม่ใช่ทั้งฉบับ
ไม่ยอมง่ายๆ "สส.เพื่อไทย" รวมตัวยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ ส่งคำร้องศาลรธน.วินิจฉัยสมาชิกภาพ "อนุทิน-ณัฐพงษ์" ทำ MOA ตั้งรัฐบาลขัดรัฐธรรมนูญ
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ชวนสายลุยเที่ยว "น้ำตกแม่กระดังลา"
"ชาวกระบี่" ร่วมแสดงพลัง ส่งกำลังใจถึง "แม่ทัพภาคที่ 2 - ทหารหาญ" ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยไทย
ตร.สืบสวนธัญบุรี จับแก็งลักรถจยย.ก่อเหตุในพื้นที่มาแล้ว 12 ครั้ง
กรมอุตุฯ เตือน ฝนตกหนัก เช็ก 46 จว.อ่วม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กทม.เจอฝน 80%

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​