“พิพัฒน์” แจงแผนแรก อัดฉีด 3 หมื่นล้าน เสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการ มั่นใจช่วยขับเคลื่อนศก. ส่งผลดีผู้ใช้แรงงาน

"พิพัฒน์" แจงแผนแรก อัดฉีด 3 หมื่นล้าน เสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการ มั่นใจช่วยขับเคลื่อนศก. ส่งผลดีผู้ใช้แรงงาน

“พิพัฒน์” แจงแผนแรก อัดฉีด 3 หมื่นล้าน เสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการ มั่นใจช่วยขับเคลื่อนศก. ส่งผลดีผู้ใช้แรงงาน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

12 มิถุนายน 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจและเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการและผู้ใช้แรงงาน ว่ากองทุนประกันสังคม ถือเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน ด้วยมาตรการอัดฉีดเงินรวมกว่า 93,000 ล้านบาท ภายในปี 2568 นี้ เบื้องต้นกระทรวงแรงงานมีแผนนำเงิน 20,000 ล้านบาทจากกองทุนประกันสังคม และอีก 10,000 ล้านบาทเป็นเงินที่รัฐบาลคืนหนี้ให้กับกองทุนประกันสังคม มาเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ ทำให้มีเงินสำหรับโครงการนี้รวม 30,000 ล้านบาท

 

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับเงินจำนวน 30,000 ล้านบาท นี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ เงิน 20,000 ล้านบาท สำหรับเสริมสภาพคล่อง ให้กับผู้ประกอบการทั่วไป โดยกำหนดวงเงินกู้ตามขนาดของสถานประกอบการ เริ่มต้นที่ 15 ล้านบาท สำหรับกิจการที่มีแรงงานน้อยกว่า 200 คน, 30 ล้านบาท สำหรับกิจการที่มีแรงงาน 201-500 คน และสูงสุด 50 ล้านบาท สำหรับกิจการขนาดใหญ่ที่มีแรงงานมากกว่า 500 คน ส่วนอีก 10,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการภาคการส่งออก เพื่อใช้ปรับปรุงหรือลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

รมว.แรงงาน กล่าวอีกว่า โครงการนี้จะดำเนินการผ่านธนาคาร 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคาร Exim Bank, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคาร ธ.ก.ส., ธนาคารยูโอบี และธนาคารไทยเครดิต หากมีหลักทรัพย์ค้ำประกันดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.35% ต่อปี ระยะเวลา 3 ปี และหากไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.75% ต่อปี และมีการลงนาม MOU เรียบร้อยแล้ว โดยมีเป้าหมายรักษาการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 80 % และหวังให้รักษาการจ้างงานได้ 100 %

 

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เงินกูุ้ส่วนที่สอง คือ โครงการช่วยเหลือผู้ประกันตนประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งเป็นไปตามที่เคยประกาศไว้ในวันแรงงานแห่งชาติ ที่ผ่านมา เบื้องต้นมีวงเงิน 24,000 ล้านบาท มาจากกองทุนประกันสังคม และมีแผนขยายเพดานการนำเงินจากกองทุนประกันสังคมมาใช้จาก 3.5% เป็น 5% จากเงินกองทุน 2.6 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีเงินเพิ่มอีก 39,000 ล้านบาท รวมสองส่วนเป็น 63,000 ล้านบาท เพื่อนำมาปล่อยเงินกู้ให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 และ 40 ประมาณ 25 ล้านคน เพื่อเสริมศักยภาพในการประกอบอาชีพและเพิ่มรายได้ ซึ่งจะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคมภายในเดือนมิถุนายนนี้ หากได้รับการอนุมัติ คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนอัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่างการหารือกับธนาคาร

“เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ปล่อยกู้ จะผ่านความรับผิดชอบของธนาคาร โดยดอกเบี้ยจะถูกกว่าการกู้จากภายนอกแน่นอน และเราเชื่อมั่นว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยให้เศรษฐกิจขับเคลื่อน และ GDP โตตามเป้าหมายที่รัฐบาลประกาศไว้ที่ 3% ” รมว.แรงงาน กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"โฆษก ทบ." ชี้เป็นภัยความมั่นคง หลังกัมพูชาวางกำลังหลายจุด มีระยะยิงถึงไทย
อิ่มอร่อยก่อนใครกับ “อาหารและเครื่องดื่ม” ใหม่ล่าสุด ในงาน “สหกรุ๊ป แฟร์ & เฟส ครั้งที่ 29” ช็อปมันส์ สนุกครบ จบในงานเดียว 26-29 มิ.ย.นี้ ไบเทค บางนา
ซีพีเอฟ จับมือภาครัฐ-ชุมชนลำพูน สู้ไฟป่า ฝุ่นควัน PM2.5
กรมส่งเสริมสหกรณ์ เดินหน้าส่งเสริมอาชีพและการตลาดในพื้นที่ คทช. ตามนโยบายรัฐบาลกระจายที่ดินทำกิน ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร ผ่านการรวมกลุ่มสหกรณ์และส่งเสริมนวัตกรรมการผลิตสู่ความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
สระแก้ว บรรยากาศที่ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว หลังประชุม JBC ไทย-กัมพูชา
"โฆษกกต." แถลงอัพเดทประชุม JBC "กัมพูชา" บรรยากาศดีปรับเข้าใจ ไทยเน้นย้ำไม่รับอำนาจศาลโลก
"ถวิล" ชี้กัมพูชารุกล้ำเกิดแล้วกว่า 400 ครั้ง ปมช่องบก เจตนายั่วยุยึดเป็นเจ้าของ แนะเดินหน้า MOU 43 เร่งปักปันเขตแดน
“สุขุม” อ่านมหิดลโพล เตือนระวัง “ทักษิณ” ซัดกลับ เหตุผลลัพธ์ไม่ถูกใจ
"มทภ. 2" ตรวจเยี่ยมทหารฐานฯ ปราสาทตาเมือนธม ชาวบ้าน-นักท่องเที่ยว แห่ให้กำลังใจ
"ฮุน มาเนต" พร้อมรับแรงงานกัมพูชากลับจากไทย โวในประเทศยังขาดอีก 7 หมื่นตำแหน่ง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น