AP และ CNN รายงานว่ารัฐบาลทรัมป์ได้ขยายปฏิบัติการกวาดจับแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย โดยเช้าเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 10 มิย.) เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองผนึกกำลังกับเจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิได้บุกเข้าไปในโรงงานบรรจุผลิตภัณฑ์อาหารเกล็น แวลี่ย์ ฟูดส์ ทางใต้ของเมืองโอมาฮ่า รัฐเนบราสก้า ก่อนเข้าจับกุมแรงงานต่างชาติจำนวนหลายสิบคน สร้างความตกใจและงุนงงให้กับเจ้าของและพนักงานบริษัท เนื่องจากเจ้าของยืนยันว่ามีการว่าจ้างแรงงานตามขั้นตอนและถูกกฎหมายทุกอย่าง
ช๊าด ฮาร์ทแมนน์ ประธานบริษัทเผยว่าเขาได้พยายามชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตม. ว่าทางบริษัทมีการใช้ระบบตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลของรัฐบาลกลางสหรัฐเพื่อเช็คประวัติอาชญากรรมตามที่กำหนดแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตอบกลับว่าระบบตรวจสอบเสีย ก่อนที่จะจับกุมแรงงานกว่า 70 คนขึ้นรถบัสออกไป
แรงงานหลายคนได้ออกมาชุมนุมประท้วงและพยายามเข้าขวางขบวนรถของเจ้าหน้าที่ โดยบางคนได้กระโดดขึ้นไปบนกระโปรงรถ บางส่วนได้ขว้างปาก้อนหินใส่ จนเกิดเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่
ส่วนสถานการณ์ความวุ่นวายที่นครลอสแอนเจลิสหลังการประกาศเคอร์ฟิวในย่านดาวน์ทาวน์ระหว่าง 20.00-06.00 นาฬิกา โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่คืนวันอังคาร (10 มิย.) เพื่อป้องกันเหตุร้ายและการปล้นสะดมร้านค้า ปรากฎว่ามีผู้ชุมนุมบางส่วนได้ละเมิดเคอร์ฟิว ทำให้ตำรวจ LAPD ต้องออกไล่ล่าจับกุม ล่าสุดจับกุมผู้ฝ่าฝืนมาได้อย่างน้อย 25 คน
นายกเทศมนตรีแคเรน แบสของแอลเอได้ประกาศเคอร์ฟิวหลังมีรายงานการปล้นสะดมห้างร้านธุรกิจต่างๆ 23 แห่ง โดยเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลได้จับกุมผู้ก่อเหตุมากกว่า 500 คนแล้วตั้งแต่เกิดเหตุจลาจลแอลเอ
ทรัมป์มีคำสั่งให้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ 4 พันนายและนาวิกโยธินอีก 700 นายเข้าควบคุมสถานการณ์ ทั้งนี้คาดการณ์ว่าทหารนาวิกโยธินจะเริ่มลงพื้นที่ในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น (พุธที่ 11 มิย.) ขณะที่เหตุชุมนุมประท้วงปฏิบัติการกวาดจับแรงงานต่างชาติของรัฐบาลสหรัฐลุกลามไปยังเมืองใหญ่ๆ รวมทั้งนิวยอร์กซิตี้, แอตแลนต้า, ชิคาโก, ซานฟรานซิสโกและออสติน