ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน จนหลายจังหวัดต้องออกประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่กันเป็นแถวๆ ให้เตรียมพร้อมรับมือ เนื่องจากอีกไม่กี่วันมวลน้ำจากภาคเหนือ จะไหลหลากลงมาแล้ว
ล่าสุด นายสงกรานต์ ชะลอศรีทอง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี กล่าวว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก และต่อเนื่องหลายวันติดต่อกัน ทำให้มีปริมาณน้ำฝนไหลลงไปสะสม ในแม่น้ำแควตากแดด พื้นที่อำเภอสว่างอารมณ์ และอำเภอทัพทัน บริเวณเหนือเขื่อนวังร่มเกล้า จนเกือบเต็มลำน้ำ
ข่าวที่น่าสนใจ
และจากการตรวจสอบพื้นที่ต้นน้ำ ของเขื่อนวังร่มเกล้า ยังไม่มีปริมาณน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองโพธิ์ อำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ และจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ไหลลงมาสมทบ แต่อย่างใด
แต่เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ได้จัดส่งนายช่างวิศวกรชลประทาน และเจ้าหน้าที่ชลประทาน เร่งออกตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง ของเขื่อนวังร่มเกล้า และบานเปิด-ปิด ประตูระบายน้ำทั้ง 3 บาน ของเขื่อนวังร่มเกล้า ให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง พร้อมใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ หากมีปริมาณน้ำป่าไหลหลากจากต้นน้ำของเขื่อน เพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกันได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำไว้ตลอด 24 ชั่วโมง และพร้อมที่จะระบายน้ำลงไปตามคลองส่งน้ำ และระบายลงไปในพื้นที่ท้ายเขื่อน ในเขตพื้นที่อำเภอเมือง อย่างเหมาะสม ไม่เกิดน้ำท่วม ทั้งนี้ ขอให้ประชาชน ที่อาศัยในพื้นที่เหนือเขื่อน และท้ายเขื่อน เฝ้าติดตามและคำประกาศเตือนของโครงการชลประทาอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำในช่วงนี้
ขณะที่กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่12 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ได้ออกประกาศเตือน 7 จังหวัดภาคกลาง ประกอบด้วย อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยยา และ จ.ลพบุรี ถึงสถานการณ์น้ำเหนือ ให้ระวังน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลาก ระหว่างวันที่ 26-30 พ.ค.นี้ ที่คาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำเหนือจะไหลมาถึงเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งจะปรับการระบายน้ำให้อยู่ในอัตราที่ 500-700 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไป อ.อินทณ์บุรี จ.ลพบุรี จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น 1 เมตร ถึง 1 เมตร 20 เซนติเมตร
ดังนั้นประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมน้ำ และผู้ประกอบการธุรกิจ หรือการก่อสร้างต่างๆ ในพื้นที่ริมน้ำ ควรเฝ้าระวัง และสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ และติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป
ขณะที่สถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ล่าสุดน้ำเหนือที่ไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังมีฝนตกหนักทางตอนบนของประเทศ ที่คาดว่าจะมีมวลน้ำไหลลงมาถึงเขื่อนเจ้าพระยา ในช่วงเวลาประมาณ 4-5 วัน
โดยเขื่อนเจ้าพระยา ได้ปรับการระบายน้ำเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได ล่าสุดได้ปรับเพิ่มการระบายขึ้นไปที่ 490 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที เพื่อเพื่อสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำ รองรับปริมาณน้ำเหนือ ที่จะไหลลงมาเติมในช่วงปลายสัปดาห์นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
