วันที่ 21 พ.ค.2568 จากกรณีที่ ศาลฎีกาพิพากษาแก้ ลงโทษจำคุก “เสก โลโซ” นักร้องชื่อดัง 2 ปี 12 เดือน 20 วัน คดีเสพยา-ขัดขวางจับกุม โดยไม่รอลงอาญา ออกหมายขัง คุมตัวไปเรือนจำพิเศษมีนบุรี ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (“เสก โลโซ” นอนคุก ฎีกาแก้โทษจำ 2 ปี 12 เดือน 20 วัน คดีเสพยา-ขัดขวางจับกุม) เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่สร้างความตกใจให้กับสังคมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าบรรดาแฟนคลับ ขณะที่บางส่วนก็อาจจะสงสัยถึงความผิดในด้านของคดีความ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ โดยระบุว่า
"ทนายรณณรงค์" วิเคราะห์สาเหตุ คลายความสงสัย ทำไม "เสก โลโซ" เข้าเรือนจำทันที ไม่รอลงอาญา
ข่าวที่น่าสนใจ
“เสก โลโซไม่รอลงอาญา เพราะปืนในมือไม่ใช่แค่ของเล่น” โดย ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ถ้าจะถามว่าทำไมคดีนี้ถึงไม่รออาญา… ต้องเริ่มจากปืนในมือนั่นแหละครับ หลายคนสงสัยว่าทำไม “เสก โลโซ” ศิลปินชื่อดังถึงไม่รอดจากการ “รอการลงโทษ” เหมือนคดีอาญาทั่วไป ทั้งที่ดูเผิน ๆ เหมือนเขาแค่ดื้อกับตำรวจ?
คำตอบสั้น ๆ คือ “เพราะปืนในมือเขาไม่ใช่แค่ของเล่น”
ย้อนเหตุการณ์ : จุดเริ่มจาก 10 นัด บนฟ้า ถึงนาทีขัดขวางตำรวจ
เรื่องนี้เกิดขึ้นช่วงปลายปี 2560 โดยมี 2 เหตุการณ์สำคัญ :
1. ยิงปืนขึ้นฟ้า
วันที่ 29 ธันวาคม 2560 นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ “เสก โลโซ” เดินทางไปประกอบพิธีที่วัดเขาขุนพนม จ.นครศรีธรรมราช และภายหลังได้ ยิงปืนขึ้นฟ้า 10 นัด โดยอ้างว่าเป็นการยิงถวาย
ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง :
มาตรา 376 : ยิงปืนในที่สาธารณะ
พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ : พกพาอาวุธปืนโดยไม่มีเหตุอันควร
2. ไม่ยอมให้จับ – ขัดขวางโดยมีอาวุธ
ต่อมาในวันที่ 31 ธันวาคม 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายจับไปที่บ้านพักของเสก โลโซที่ จ.นครนายก เพื่อดำเนินคดี
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เสก ตะโกน ขัดขืน ด่าทอ และมีอาวุธปืนอยู่ในบ้าน ทำให้การจับกุมต้องใช้กำลังเข้าควบคุมสถานการณ์ และมีการตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย
พฤติกรรมแบบนี้…ไม่ใช่เรื่องเล็ก
คนทั่วไปอาจคิดว่า แค่ดื้อ ไม่ให้จับ…จะถึงกับติดคุกเลยหรือ?
แต่ในทางกฎหมาย “การขัดขวางเจ้าหน้าที่โดยมีอาวุธ” = เรื่องใหญ่
บทกฎหมายสำคัญที่ใช้ในคดีนี้
มาตรา 138 วรรคสอง
ผู้ใดต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี
มาตรา 140 วรรคหนึ่ง
ถ้าการกระทำตาม ม.138 มี “อาวุธ” หรือกระทำร่วมกัน 3 คนขึ้นไป เพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 5 ปี
มาตรา 140 วรรคสาม
ถ้าใช้อาวุธ ปืน หรือ วัตถุระเบิด
ต้อง เพิ่มโทษหนักขึ้นอีกกึ่งหนึ่ง (จาก 5 ปี → 7 ปี 6 เดือน)
วิเคราะห์แบบชัด ๆ : เสก โลโซ “ไม่รออาญา” เพราะเข้าข่ายเพิ่มโทษเต็มขั้น
เขา ไม่เพียงแค่ขัดขืนเจ้าพนักงาน แต่ยัง มีอาวุธปืน
และปืนที่มีก็ บรรจุกระสุน พร้อมยิง
เมื่อเข้าเงื่อนไข “มีอาวุธปืน” = ศาลต้องใช้มาตรา 140 วรรคสาม
ซึ่งนำไปสู่การ เพิ่มโทษ “ครึ่งหนึ่ง” จากโทษเดิม
แล้วทำไมศาลถึงไม่รออาญา?
ตาม มาตรา 56 ประมวลกฎหมายอาญา ศาลจะรอการลงโทษได้ก็ต่อเมื่อ
จำเลย สำนึกผิด
ไม่เป็นภัยต่อสังคม
มีแนวโน้มจะ กลับตัวเป็นพลเมืองดี
แต่เสก โลโซ ในช่วงเกิดเหตุ ไม่ได้สำนึก กลับใช้ปืน ขัดขืนตำรวจอย่างเปิดเผย
ศาลจึงเห็นว่า “ไม่เข้าเงื่อนไขที่สมควรจะเมตตาให้รออาญา”
เทียบเคียงคดีอื่น – เสกไม่ใช่รายแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 692/2561
จำเลยซ่อนปืนไว้ใต้เบาะในรถ
ปืนมีกระสุนบรรจุพร้อมยิง
ศาลตีความว่า “มีอาวุธพร้อมใช้”
ลงโทษตามมาตรา 140 วรรคสาม เช่นเดียวกับกรณีเสก โลโซ
บทสรุปจากทนายรณรงค์ : เปรี้ยวได้…แต่อย่าเปรี้ยวผิดที่
กฎหมายไม่ได้กลัวชื่อเสียงใคร
ต่อให้คุณเป็นร็อกสตาร์แค่ไหน ถ้าด่าตำรวจ-ถือปืน-ขัดขืนการจับกุม
ก็หนีไม่พ้นการลงโทษที่เข้มข้นตามบทกฎหมาย
เพราะเจ้าหน้าที่ที่รักษากฎหมายต้องได้รับความคุ้มครอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง