“กอบศักดิ์” หวั่นใจศก.ไทยทรุดหนัก ชี้ตัวเลขสภาพัฒน์ “การบริโภค-การผลิตอุตฯ”เป็นโจทย์ใหญ่ต้องเร่งแก้

"กอบศักดิ์" หวั่นใจศก.ไทยทรุดหนัก ชี้ตัวเลขสภาพัฒน์ "การบริโภค-การผลิตอุตฯ"เป็นโจทย์ใหญ่ต้องเร่งแก้

วันที่ 20 พ.ค.2568 นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กเรื่อง ปัญหาหลักของเศรษฐกิจไทย!

โดยระบุรายละเอียดว่า เมื่อวานนี้ทางสภาพัฒน์ได้ประกาศGDP ไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ขยายตัว +3.1% ออกมาได้ดีกว่าที่หลายคนคิด จากการเร่งส่งออก ที่ช่วยให้การส่งออกสินค้า +13.8% ซึ่งจะดีต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 โดยผู้ประกอบการสหรัฐคงพยายามเร่งนำเข้าก่อนที่จะหมด 90 วัน มีของไว้ก่อนดีกว่า แม้ว่าจะถูกTariffs 10% เพราะในอนาคตไม่รู้ว่าจะจบกันอย่างไร

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ในข้อมูล GDP ของสภาพัฒน์ที่แถลงออกมามีตัวเลข 2 ตัวที่น่าจับตามองที่จะกดดันเศรษฐกิจไทยไปในช่วงหลายปีข้างหน้า 1. การบริโภคภาคเอกชน ที่ขยายตัวได้เพียง +2.6% ซึ่งน่ากังวลใจ เพราะปกติแล้วการบริโภคภาคเอกชนจะมีขนาดประมาณ 55% ของเศรษฐกิจ เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทยจะคึกคักหรือไม่ ก็จะขึ้นกับว่า คนใช้จ่ายหรือไม่ ซึ่งตัวเลขนี้ควรจะขยายตัวได้ 5-6% แต่ช่วง 4 ไตรมาสสุดท้าย ขยายตัวได้เพียงประมาณ 3% กว่าๆ ส่วนหนึ่งคงเป็นผลจากการที่เศรษฐกิจไทยไม่ค่อยโต และอีกส่วนคงมาจากการที่เราเป็นหนี้กันมาก มีหนี้ครัวเรือนสูง มีหนี้เสียเพิ่มขึ้น

2. ตัวเลขที่ยิ่งน่ากังวลใจไปกว่านั้น ก็คือ การผลิตของภาคอุตสาหกรรม ภาคนี้ คือภาคที่สร้างรายได้หลักของประเทศ ล่าสุดมีสัดส่วนประมาณ 28% ของ GDP ในช่วงที่เราขยายตัวดีๆ ภาคนี้จะเป็นหัวหอก เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยผลักเศรษฐกิจไทย ช่วงปี 2000-2007 ขยายตัวที่ +9.5% ช่วงปี 2010-2018 ขยายตัวที่ +4.1% แต่ 5 ไตรมาสสุดท้าย ขยายตัวเฉลี่ยเพียง +0.5% เครื่องยนต์ดับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าอุตสาหกรรมไทยกำลังตกรุ่น โรงงานกำลังปิด หรือ ลดกำลังการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มยานยนต์ที่กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

 

 

ถ้าเราอยากเห็นเศรษฐกิจไทยคึกคักอีกรอบ นี่คือโจทย์สำคัญที่เราต้องแก้ให้ได้ แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน และสร้างหรือผลัดใบภาคอุตสาหกรรมไทยที่จะมาเป็นรายได้ใหม่ๆ ให้กับประเทศ ทดแทนการปิดตัวของโรงงานแบบเดิมๆ ถ้าเราแก้ไม่ได้ เศรษฐกิจไทยก็ยากจะกลับไปโตอย่างที่เราหวังกัน ถูกเพื่อนบ้านแซง หรือ ทิ้งไว้ข้างหลัง โชคดีช่วงนี้คลื่นการลงทุนรอบใหม่ในอาเซียนกำลังมา หลายๆประเทศกำลังหลั่งไหลเข้ามาลงทุนหลังจากทิ้งเราไปหลังวิกฤตต้มยำกุ้ง ถ้าหากว่า เราได้ส่วนแบ่งที่พอสมควร 3-5 ปีให้หลัง เราจะมีภาคอุตสาหกรรมใหม่ที่จะออกดอกออกผลอีกครั้ง เป็นเครื่องยนต์ใหม่ให้เศรษฐกิจไทยไปอีก 15-20 ปี

นายกอบศักดิ์ทิ้งท้ายว่า ขอเป็นกำลังใจให้กับ BOI ที่พยายามต่อสู้ ช่วงชิงโอกาสให้ประเทศไทย ในช่วงเช่นนี้ หาก BOI มีงบ มีคนเพิ่มเติม อนาคตของไทยก็จะสดใสมากขึ้นครับ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"แอ๊ด-หงา-ปู" ประกาศจุดยืน ปล่อยเพลงต้านนโยบายกาสิโนเพื่อไทย
"หมอตุลย์" เดินหน้ายื่นปธ.วุฒิฯ ส่งคำร้องศาลรธน.วินิจฉัย "อุ๊งอิ๊ง" พ้นรมว.วัฒนธรรม พร้อมหยุดปฏิบัติหน้าที่
"นิพิฏฐ์" เตือน "แพทองธาร" เสี่ยงมาก เลี่ยงย้ายทำหน้าที่รมว.วัฒนธรรม ชี้คำร้องเรื่องคุณสมบัติ เป็นไปตามรธน.มาตรา 160
"อุตุฯ" เตือน 45 จังหวัด รับมือฝนฟ้าคะนอง กทม.ไม่รอด ร้อยละ 70 ของพื้นที่
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) วนอุทยาน 'ไซห่านป้า' ผืนป่าฝีมือมนุษย์ใหญ่สุดในโลก
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เซี่ยงไฮ้ต้อนรับ 'นักท่องเที่ยวต่างชาติ'พุ่งสูง คนไทยติดอันดับ
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) มวยไทย-ระบำเอ็งกอ ผูกโยงวัฒนธรรมไทย-จีน
ราชกิจจาฯ ประกาศอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ตามประเภทกิจการ พื้นที่กำหนด มีผลทันที
"หนุ่มถูกจับเมาขับ" หัวร้อน ทำร้ายตำรวจสิบเวรหน้าห้องขัง เหตุญาติไม่มาประกันตัว พาครอบครัวไหว้ขอขมาก่อนรับเพิ่ม 1 ข้อหา
"แม่ค้าก๋วยจั๊บ" สระบุรี  ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 รับ 6 ล้านบาท ดีใจแจกก๋วยจั๊บให้ชาวบ้านทานฟรี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น