ABC, BBC และ AP รายงานว่าอัลบานีซีได้ขึ้นเวทีประกาศชัยชนะเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (เสาร์ที่ 3 พค.) หลังจากพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคกลาง-ซ้ายของเขามีคะแนนนำทิ้งห่างพรรคเสรีนิยม ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมของปีเตอร์ ดัตตันแบบไม่เห็นฝุ่น ล่าสุดนับคะแนนเสร็จสิ้นแล้ว 65% แต่สถานีโทรทัศน์ ABC ของออสเตรเลียคาดการณ์ว่าอัลบาซีซีจะคว้าที่นั่งในสภามาได้อย่างน้อย 85 ที่นั่งจากทั้งหมด 151 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นถึง 9 ที่นั่ง ขณะที่พรรคฝ่ายค้านเสรีนิยมได้เพียง 41 ที่นั่ง ซึ่งถือเป็นการพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ เพราะไม่เพียงจะเสียที่นั่งในเกือบทุกเขตทั่วประเทศแล้ว ดัตตันก็ยังเสียที่นั่งในเมืองบริสเบนที่ตัวเองครองมานานถึง 24 ปี ช่วยให้อัลบานีซีได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีสองสมัยติดต่อกันคนแรกในรอบ 21 ปีของออสเตรเลีย สะท้อนถึงความต้องการของชาวออสเตรเลียที่ตัดสินใจเลือกความมั่นคงแทนการเปลี่ยนแปลงท่ามกลางสภาวะปั่นป่วนไปทั่วโลก ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ
อัลบานีซีกล่าวว่าชาวออสเตรเลียเลือกที่จะเผชิญกับสิ่งท้าทายตามแบบฉบับของออสเตรเลีย โดยจะไม่ลอกนโยบายจากใคร ซึ่งเป็นการพูดกระทบถึงนโยบายหาเสียงของดัตตันที่เลียนแบบมาจากนโยบายทรัมป์ รวมทั้งการจัดตั้งสำนักงานประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ที่อีลอน มัสก์เป็นผู้อำนวยการ ซึ่งเรื่องนี้ได้กลายเป็นผลเสียต่อดัตตัน เพราะชาวออสเตรเลียวิตกว่าเขาอาจนำประเทศไปสู่ความเป็นอนุรักษ์นิยมสุดโต่งเหมือนทรัมป์
การพ่ายแพ้ของดัตตันถูกเปรียบเทียบว่าเหมือนการพ่ายแพ้ของปิแอร์ ปัวลิเยเวอร์ผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมฝ่ายค้านของแคนาดา ที่ตอนแรกเป็นตัวเก็งว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีแคนาดาคนต่อไป ท่ามกลางกระแสผู้นำสายอนุรักษ์นิยมที่มาแรงหลังจากทรัมป์ชนะเลือกตั้งสหรัฐอย่างถล่มทลาย แต่หลังจากที่ทรัมป์ประกาศจะเอาแคนาดามาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐและประกาศสงครามภาษีไปทั่วโลก กระแสความนิยมผู้นำสายอนุรักษ์นิยมก็ดิ่งลงทันที ทำให้มาร์ก คาร์นีย์กลายมาเป็นผู้นำใหม่ของแคนาดา
กรณีของอัลบานีซีก็เช่นกัน เพราะเมื่อช่วงต้นปีคะแนนนิยมร่วงต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ หลังจาก 3 ปีของปัญหาเศรษฐกิจ แต่หลังจากที่ทรัมป์ประกาศมาตรการภาษีตอบโต้ ออสเตรเลียเองก็โดนเรียกเก็บ 10% ประกอบกับนโยบายที่กลับไปกลับมาของทรัมป์ได้บั่นทอนความไว้วางใจของชาวออสเตรเลีบต่อสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม หลังอัลบานีซีประกาศชัยชนะ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐก็ออกมาแสดงความยินดี และกล่าวว่าออสเตรเลียเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐซึ่งมีค่านิยมและแนวคิดด้านประชาธิปไตยที่เหมือนกัน