BBC รายงานโดยอ้างแถลงการณ์ของทำเนียบนายกรัฐมนตรีแคนาดาระบุว่าทรัมป์ได้ต่อสายมาพูดคุยและแสดงความยินดีกับคาร์นีย์ เมื่อวานนี้ (อังคารที่ 29 เมย.) หลังจากได้ชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปแคนาดาซึ่งมีขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา นอกจากนี้สองผู้นำก็ตกลงที่จะพบกันในเร็วๆนี้ โดยคาดว่าทั้งคู่จะหารือกันในประเด็นการค้าและความมั่นคงครั้งใหม่ หลังจากมาตรการกำแพงภาษีและคำขู่จะยึดแคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐมีส่วนสำคัญทำให้คาร์นีย์ชนะเลือกตั้ง แม้จะมีคะแนนไม่พอที่จะจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากก็ตาม
การพูดคุยระหว่างผู้นำแคนาดาและสหรัฐถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การเลือกตั้ง โดยสองผู้นำต่างเห็นพ้องต้องกันว่าแคนาดาและสหรัฐจำเป็นต้องมีความร่วมมือกัน และทำงานร่วมกันในฐานะประเทศอธิปไตย เพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย
อย่างไรก็ตาม แอนนา เคลลี่ รองโฆษกทำเนียบขาวออกมาย้ำอีกครั้งเมื่อวานนี้ว่าการเลือกตั้งแคนาดาไม่มีผลต่อนโยบายของทรัมป์ที่หวังจะควบรวมแคนาดามาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐ ขณะที่คาร์นีย์ก็ให้สัมภาษณ์กับ BBC ในวันเดียวกันว่าสหรัฐต้องให้เกียรติแคนาดา และว่าความร่วมมือทางการค้าและความมั่นคงระหว่างแคนาดาและสหรัฐจะเกิดขึ้นได้ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของแคนาดา และว่าความฝันของสหรัฐที่จะได้แคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ไม่มีวันเป็นจริง
พรรคเสรีนิยมของคาร์นีย์ชนะเลือกตั้ง 169 ที่นั่ง ขาดไปเพียง 3 ที่นั่งจึงจะได้รัฐบาลเสียงข้างมาก ทำให้คาร์นีจำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ทั้งนี้คาร์นีซึ่งเป็นอดีตผู้ว่าการแบงค์ชาติแคนาดาและอังกฤษเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังจากจัสติน ทรูโดตัดสินใจลาออก