‘อธิบดีโยธาฯ’ มั่นใจแบบจำลองโมเดล พิสูจน์หาสาเหตุ ‘ตึกสตง.’ถล่มได้ คาด 90 วันรู้ผล

‘อธิบดีโยธาฯ’รายงานคืบหน้าสอบโครงสร้างตึก สตง.ถล่มต่อ‘มท.1’ พุ่งเป้า‘คำนวณ-แก้ไขแบบก่อสร้าง’ มั่นใจแบบจำลองทางคณิตศาสตร์สามารถพิสูจน์เหตุอาคารถล่มได้ แจงต้องใช้หลายหน่วยงานร่วมมือป้อง ‘Human error’

‘อธิบดีโยธาฯ’ มั่นใจแบบจำลองโมเดล พิสูจน์หาสาเหตุ ‘ตึกสตง.’ถล่มได้ คาด 90 วันรู้ผล

 

ข่าวที่น่าสนใจ

2 พ.ค.2568 ที่กระทรวงมหาดไทย นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. กล่าวภายหลังเข้ารายงานความคืบหน้าผลการตรวจสอบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า เราได้ตรวจสอบในเรื่องของการคำนวณ ซึ่งกำลังตรวจสอบในเรื่องของรายละเอียด เนื่องจากว่ามีรายละเอียดจำนวนมาก

 

และมีแนวเรื่องที่กำลังทำคู่ขนานกันไป คือการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ ซึ่งจะเป็นบทพิสูจน์ว่าอาคาร สตง.ถล่ม เกิดจากการออกแบบหรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ได้ขอเวลาการพิสูจน์ต่อนายกรัฐมนตรีไว้ 90 วัน ฉะนั้นไทม์ไลน์ที่กำหนดในระยะเวลา 90 วันก็จะได้ผลว่าการออกแบบตามแบบทำให้อาคารพังหรือไม่ ซึ่งวิธีการคือสร้างแบบจำลองโดยนำแบบเข้าในคอมพิวเตอร์ และกำหนดคุณสมบัติของวัสดุเข้าไปในแบบจำลอง แล้วให้แรงแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นจริงกระทำกับอาคาร จึงจะทำให้รู้ว่าอาคารสตง.นี้พังหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ และย้ำว่าภายใน 90 วันก็จะสามารถพิสูจน์ได้

ส่วนการตรวจสอบเอกสารนั้น อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า ได้ร่วมตรวจสอบเอกสารจากการไปตรวจยึดในพื้นที่ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอ โดยจะตรวจสอบในเรื่องของรายงานประจำวัน ประจำสัปดาห์ การขออนุมัติ การเทคอนกรีต และในเรื่องการทดสอบวัสดุต่างๆ ส่วนวัสดุที่เก็บหน้างานได้เก็บร่วมกับตำรวจ และทางตำรวจได้อายัดไว้ไปตรวจสอบ นอกจากนี้ตนยังได้รายงานนายอนุทินด้วยว่า ต้องไปปรับปรุงกฎหมายกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ,พ.ร.บ.วิชาชีพวิศวกร และมาตรฐานของการก่อสร้างของพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกัน

เมื่อถามว่า กรอบระยะเวลา 90 วันจะสามารถสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ได้ใช่หรือไม่ อธิบดีกรมโยธาฯ กล่าวว่า ขณะนี้ใช้เวลาดำเนินการไปแล้ว 1 เดือน และแบบจำลองนี้ทำโดย 5 หน่วยงาน แล้วมาวิเคราะห์ร่วมกัน เพื่อให้เกิดความมั่นใจในแบบจำลอง และทำออกมาเป็นบทสรุป ส่วนขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบฯ พุ่งเป้าไปที่ประเด็นใดนั้น สิ่งที่ดูได้ทันทีคือการคำนวณตามแบบที่มีการจ้างการก่อสร้างซึ่งมีอยู่แล้ว และที่ได้แก้ไขแบบ ได้แก้ไขแบบส่วนใดบ้างที่เกี่ยวกับโครงสร้าง เราจะนำเข้าแบบจำลอง ซึ่งแบบจำลองชุดนี้ เหมือนกับนำอาคารจริงก่อนที่จะพังถล่ม โดยรันโมเดลเข้าไปในระบบ

 

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ที่ รศ.เอนก ศิริพานิชกร ที่ปรึกษา สาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วศท. ให้ความเห็นว่าแบบไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวง อธิบดีกรมโยธาฯ กล่าวว่า ตอนนี้ต้องรอผลสรุปของคณะกรรมการฯ เพราะเป็นหน้าที่ของคณะกรรม ตนไม่สามารถพูดก่อนได้ อย่างไรก็ดียืนยันว่าแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ จะมีผลทดสอบ แล้วผลจะแน่นอนออกมาเป็นคำตอบให้สังคมได้ เพราะแบบจำลองที่เราตรวจสอบดำเนินการเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว แต่ต้องสร้างแบบจำลองให้ครอบคลุมในหลายสถานะ อีกทั้งองค์ประกอบของคณะทำงานชุดนี้ครอบคลุมผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง ดังนั้นตนเชื่อว่าเมื่อผลออกมา จะสร้างความชัดเจนให้กับโครงการนี้ได้ ว่าสาเหตุของอาคารนี้ที่ถล่มเป็นเพราะอะไร

 

อธิบดีกรมโยธาฯ กล่าวย้ำว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ ซึ่งมีอยู่ 4 ลำดับ ในลำดับแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว คีย์ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว แต่ยอมรับว่ามีอยู่หลายขั้นตอน จึงต้องใช้เวลา และหลังจากเสร็จแล้วจะต้องประชุมหารือ เพราะเราต่างคนต่างทำ และต้องคุยถึงหลักเกณฑ์ต่างๆว่าจะใช้หลักใด เพื่อให้เป็นฐานเดียวกัน ก่อนที่จะประมวลเป็นผลออกมา และต้องดูว่าผลของแต่ละสถาบันออกมาในแนวทางเดียวกันหรือไม่ จึงจะออกมาเป็นผลสรุปของคณะกรรมการฯชุดนี้

สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบความเสียหายของอาคาร จากเหตุแผ่นดินไหวนั้น อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผยว่า แบ่งเป็นอาคารของภาครัฐและเอกชน ในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เบื้องต้นตรวจสอบอาคารภาครัฐในกรุงเทพฯ 300 กว่าหน่วยงาน ประมาณ 900 กว่าอาคาร พบว่ามีความเสียหายรุนแรงกระทบต่อการใช้งานเพียง 1 อาคาร คือ อาคารของ สตง. ส่วนต่างจังหวัดตรวจสอบไปแล้ว 3,000 กว่าหน่วยงาน ประมาณ 9,000 กว่าอาคาร ส่วนใหญ่เป็นอาคารที่สามารถใช้งานได้ตามปกติ มีอาคารที่เสียหายและปิดการใช้ 16 อาคาร จากทั้งหมด 76 จังหวัด ในส่วนที่เป็นอาคารของเอกชน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้ออกคำสั่งไปแล้ว 11,000 อาคาร ตรวจสอบแล้ว 5,000 กว่าอาคาร ซึ่งรายงานมาแล้ว ไม่ได้รับความเสียหายรุนแรงถึงขั้นต้องปิดการใช้ หรือถึงขั้นสีแดง ในส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดมีประมาณ 6 หมื่นกว่าอาคาร ใน 76 จังหวัด ทางท้องถิ่นได้แจ้งให้เจ้าของอาคารตรวจสอบอยู่ และรายงานให้กรมโยธาธิการและผังเมืองทราบในทุก 15 วัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สื่อกัมพูชา" รีบโต้วุ่น ยัน "ปอยเปต" มีไฟฟ้าใช้ ไม่ขาดแคลนน้ำมัน หลังยกเลิกนำเข้าจากไทย
"โฆษกทบ." สวน "กัมพูชา" กิจกรรมปั่นจักรยาน เยี่ยมชมตาเมือนธม ไม่ได้ละเมิดข้อตกลง ตั้งในพื้นที่เขตไทย ย้ำปมปิดช่องสายตะกู ปรับให้สอดคล้องแนวทางศบ.ทก.
"แม่ทัพภาคที่ 2 " แจงย้ำ เหตุจำเป็นปิดด่าน ไทย-กัมพูชา ยันยึดหลักมนุษยธรรม ดูแลผู้เจ็บป่วยรักษาฝั่งไทย กำชับชาวเขมรห้ามแสดงสัญลักษณ์
"ก่อแก้ว" โพสต์ภาพ "นายกฯ" ร่วมหน.พรรค พร้อมหยันเสียใจด้วย คนอยากให้รัฐบาลล้ม "ไผ่ ลิกค์" ลั่นอบอุ่นกว่าเดิม
ระยอง จับกุมขบวนการขนยาข้ามชาติ เตรียมส่งออกนอกราชอาณาจักรไทย มูลค่ามูลค่ากว่า 400 ล้าน
"กรมการค้าต่างประเทศ" เปิด 10 รายชื่อสินค้ายอดนิยม "กัมพูชา" สั่งนำเข้าจาก "ไทย"
ด่วน! "นายกฯ" โพสต์ภาพร่วมหัวหน้าพรรค ยันมติหนุนรัฐบาล สร้างเสถียรภาพการเมือง รับมือภัยคุกคามมั่นคงชาติ
"อัครเดช" ยันรทสช.ไม่ขอเก้าอี้รมต.เพิ่ม วอนฟังข้อสรุปพรรค จาก "พีระพันธุ์" ปัดแทรกเงื่อนไขเปลี่ยนนายกฯ
"คำนูณ" ย้อนเหตุกัมพูชา เคยตัดสัมพันธ์การทูตไทยแล้ว 2 ครั้ง ไม่อยากให้เกิดอีกรอบ 3
สมุทรสงครามโชว์ผลชัด ปลาหมอคางดำลดลงจริงจากโมเดลบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น