ศาลเวียดนามลดโทษเจ้าแม่อสังหาฯฉาวเหลือจำคุก 30 ปี

ศาลเวียดนามสั่งลดโทษเจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์ในคดีสุดโกงอันโด่งดังจากจำคุกตลอดชีวิตลงเหลือ 30 ปี หลังจากผู้ต้องหาอ้างว่าเป็น “อุบัติเหตุ”

AFP รายงานว่าศาลอุทธรณ์ที่นครโฮจิมินห์ ซิตี้มีคำพิพากษาตัดสินในวันนี้ (จันทร์ที่ 21 เมย.) ให้ลดโทษนางเจือง มี ลาน เศรษฐีนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์วัย 68 ปีชาวเวียดนามลงเหลือ 30 ปี จากการกระทำความผิด 3 คดี ซึ่งรวมทั้งคดีฟอกเงิน 1 หมื่น 7 พัน 700 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 6 แสนล้านบาท), ยักยอกเงินข้ามพรมแดน 4 พัน 500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 1 แสน 5 หมื่นล้านบาท) และใช้เงินระดมทุนพันธบัตรอย่างผิดกฎหมาย 1 พัน 200 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 4 หมื่นล้านบาท) หลังจากศาลชั้นต้นเวียดนามพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิตเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ( 2567)

ผู้พิพากษาให้เหตุผลของการลดโทษว่าหลังจากที่มีการปรึกษาหารือกันแล้วมองว่าสามารถนำทรัพย์สินของนางลานที่ยึดได้มาชดเชยให้กับผู้เสียหายที่ต้องสูญเงินไปจำนวนมาก ขณะที่ลานให้การต่อศาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าการกระทำความผิดของเธอเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจแต่เป็น “อุบัติเหตุ” และว่านับตั้งแต่ที่ถูกจำคุก เธอได้มีความพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหาทางแก้ปัญหาเพื่อชดใช้ผู้เสียหาย

อย่างไรก็ตามเจือง มี ลานถูกศาลอุทธรณ์คงคำพิพากษาประหารชีวิตในอีกคดีสำคัญคือคดียักยอกเงินจากธนาคารไซง่อน คอมเมอร์เชียล (SCB) จำนวน 1 หมื่น 2 พัน 500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 4 แสนล้านบาท) แม้นางลานจะขอจ่ายเงินคือบางส่วนเพื่อลดโทษ เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสำคัญและเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเวียดนาม สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจรวมแล้วสุงถึง 2 หมื่น 7 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ (มากกว่า 9 แสนล่านบาท) หรือคิดเป็น 6% ของ GDP ในปี 2566 โดยมีผู้เสียหายมากกว่า 3 หมื่น 6 พันราย

ที่มาที่ไปของคดีนี้ มาจากนางลาน ซึ่งได้เริ่มธุรกิจจากการขายของชำ ขายเครื่องสำอาง จนกระทั่งสร้างตัวจากการถือครองอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากในยุคปฏิรูปเศรษฐกิจใหญ่ ทำให้เธอเป็นเจ้าของที่ดิน และเจ้าของธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารหลายแห่ง ในปี 2554 เธอได้รับอนุญาตให้เข้าไปควบรวมกิจการธนาคารขนาดเล็ก 3 แห่งที่ประสบปัญหาทางการเงิน จนกลายเป็นธนาคารไซ่ง่อน คอมเมอร์เชียล
ตามกฎหมายของเวียดนาม บุคคลห้ามถือหุ้นธนาคารเกิน 5% แต่นางลานเลี่ยงกฎหมายนี้ด้วยการตั้งบริษัทเปล่า (shell companies) และนอมินีจำนวนมากมาถือหุ้นแทน จนทำให้ในความเป็นจริง เธอเป็นเจ้าของธนาคารแห่งนี้ในสัดส่วนกว่า 90%

เธอใช้อำนาจแต่งตั้งคนของตัวเองเป็นผู้จัดการเอื้อประโยชน์ในการออกเงินกู้ จนทำให้ยอดกู้ของเธอพุ่งสูงขึ้น 93% ของเงินทั้งหมดที่ธนาคารปล่อยกู้ แถมยังสั่งให้คนขับรถถอนเงินสดจากธนาคารมากถึง 108 ล้านล้านดอง หรือราว 8 หมื่นล้านบาท มาเก็บไว้ที่ห้องใต้ดินบ้านตัวเอง นอกจากนี้ยังจ่ายสินบนมหาศาลให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ จนหลายคนถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตไปแล้ว

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"รมช.กลาโหม" ลงพื้นที่ชายแดนใต้ เรียกถกคลี่คลายเหตุรุนแรง ย้ำรัฐบาลห่วงใยประชาชนทุกกลุ่ม ปรับรูปแบบกำลังพล ทำงานเข้มงวด
เหิมหนัก โจรใต้ลอบวางระเบิด "ทหารช่าง" ยะลา บาดเจ็บ 2 นาย
สืบสวนสัตหีบ รวบ เพรช ตีนแมว หลังขโมยรูปหล่อเสด็จเตี่ยหน้าโรงพักสัตหีบ และ พบประวัติก่อเหตุทั่วสัตหีบ
พิรุธ! 11 บริษัท ส่งออก "ปลาหมอคางดำ" แต่ไม่เคยขออนุญาตนำเข้า
บทพิสูจน์ การบังคับใช้กฎหมาย ก่อนเปิด "กาสิโน" หวยออนไลน์ ลามใช้เด็กและความอ่อนไหว "สถาบันครอบครัว" โฆษณา
กรมโยธาฯ แจงเหตุโครงการเขื่อนป้องกันชายฝั่งทะเล ประจวบคีรีขันธ์ ชำรุดเสียหาย
สระแก้ว ระทึก เพลิงไหม้โกดังสินค้าตู้แช่มือสอง กลุ่มควันลอยปกคลุมเมืองสระแก้วกว่า 10 กม.
“อนุทิน” ย้ำจุดยืน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ” พรรคร่วมต้องเป็นหนึ่ง หนุนทำประชามติ ฟังเสียงประชาชน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ฮ่องกงแข่งปีน 'ภูเขาซาลาเปา'
"พรรคส้ม" ออกแถลงการณ์ด่วน ผู้สมัคร สท.สมุทรปราการ โดนจับตั้งแก๊ง "บุญรักษา" ค้ายาเสพติดรายใหญ่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น