“นิพนธ์” ยืนกรานค้านร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ ชี้รัฐวางแผนใช้พื้นที่ 10% สร้างกาสิโน ขนาดใหญ่มาก เชื่อผลร้ายสังคมมากกว่าผลดีปท.

"นิพนธ์" ต้านนโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซัดรัฐบาลไต่ตรองดีแล้วหรือที่มุ่งตั้งกาสิโน มากกว่าพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

“นิพนธ์” ยืนกรานค้านร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ ชี้รัฐวางแผนใช้พื้นที่ 10% สร้างกาสิโน ขนาดใหญ่มาก เชื่อผลร้ายสังคมมากกว่าผลดีปท. – Top News รายงาน

 

นิพนธ์

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2568 นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และอดีต สส. 8 สมัย แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยต่อแนวนโยบาย “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่รัฐบาลกำลังเร่งผลักดัน โดยออกมาแสดงความกังวลต่อทิศทางนโยบายที่มุ่งเน้นเรื่องกาสิโนมากกว่าประโยชน์ด้านอื่น พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลยังขาดความพร้อมในการรับมือกับผลกระทบทางสังคมอย่างแท้จริง

นายนิพนธ์ตั้งข้อสังเกตว่า แม้รัฐบาลจะประชาสัมพันธ์ว่านโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เนื้อแท้ของนโยบายกลับมุ่งเป้าไปที่การเปิดบ่อนกาสิโน โดยพิจารณาจากการผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องถึง 3 ฉบับ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งเปิดทางให้เกิดการจัดตั้งศูนย์รวมกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงบ่อนพนัน, ร่าง พ.ร.บ. การพนันออนไลน์ ที่จะเป็นการขยายพื้นที่ของการพนันเข้าสู่ระบบดิจิทัลแบบถูกกฎหมาย, ร่าง พ.ร.บ. การท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการปรับโครงสร้างการใช้ที่ดินบริเวณท่าเรือ ให้สามารถรองรับการพัฒนาพื้นที่สำหรับกิจกรรมเอกชน รวมถึงกาสิโนได้ ทั้งนี้ การเสนอร่างกฎหมายเหล่านี้ในเวลาใกล้เคียงกัน สะท้อนเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของรัฐบาลว่ากำลังเตรียมความพร้อมด้านกฎหมายเพื่อเปิดทางให้กาสิโนสามารถดำเนินกิจการในประเทศได้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายนิพนธ์ได้ยกกรณี “ท่าเรือคลองเตย” ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายของโครงการ ว่ามีพื้นที่รวมกว่า 2,353 ไร่ โดยตามแนวนโยบายที่ระบุว่า 10% ของพื้นที่สามารถใช้สำหรับกาสิโนได้ จะทำให้พื้นที่ที่ใช้สร้างบ่อนพนันมีขนาดถึง 235 ไร่ ซึ่งนับว่าใหญ่โตมากเมื่อเปรียบเทียบกับสถานที่สาธารณประโยชน์ที่มีบทบาทสำคัญต่อสังคม เช่น โรงพยาบาลศิริราช มีเนื้อที่ 412 ไร่, โรงพยาบาลรามาธิบดี มีเพียง 38 ไร่, มหาวิทยาลัยรามคำแหง มีประมาณ 300 ไร่, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีเพียง 49 ไร่ การใช้พื้นที่ระดับหลายร้อยไร่เพื่อกาสิโน เท่ากับการให้ความสำคัญกับธุรกิจพนันมากกว่าการลงทุนในระบบสุขภาพหรือการศึกษา ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาคุณภาพประชากรในระยะยาว

จากประเด็นดังกล่าว นายนิพนธ์ แสดงความกังวลว่า รัฐบาลกำลังมุ่งหวังรายได้จากกิจกรรมที่อาจกลายเป็น “การมอมเมา” ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่มีแนวโน้มตกเป็นเหยื่อของการเสพติดการพนัน ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสังคม เช่น หนี้สิน ความรุนแรงในครอบครัว อาชญากรรม และภาวะยากจนในระยะยาว ตนเห็นว่ารัฐบาลขาดมาตรการรองรับผลกระทบเหล่านี้อย่างเป็นระบบ และพยายามผลักภาระไปให้หน่วยงานอื่น เช่น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แทนที่จะตั้งกลไกเฉพาะกิจเพื่อวางแนวทางป้องกันและบำบัดปัญหาอย่างรอบด้าน นอกจากนี้ นายนิพนธ์ ยังวิพากษ์การที่รัฐบาลไทยนำตัวอย่าง “กาสิโนในสิงคโปร์” มาอ้างอิง โดยมองว่าเป็นการเลือกหยิบมาเพียงบางด้านที่เอื้อต่อข้ออ้างในการผลักดันนโยบาย เช่น รายได้จากนักท่องเที่ยว หรือการบริหารจัดการพื้นที่ แต่กลับไม่พูดถึงสิ่งสำคัญที่รัฐบาลสิงคโปร์ได้ดำเนินการก่อนจะเปิดกาสิโน ได้แก่ การใช้เวลาศึกษานโยยายและผลกระทบ นานกว่า 10 ปี, การจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะเพื่อวิเคราะห์ผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ, การวางมาตรการควบคุมพฤติกรรมเสพติดการพนัน เช่น ค่าผ่านประตูสำหรับคนสิงคโปร์ หรือการจำกัดเวลาการเล่น ซึ่งการนำเพียงข้อดีของโมเดลต่างประเทศมาใช้ โดยไม่คำนึงถึงโครงสร้างสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน อาจส่งผลให้ประเทศไทยต้องเผชิญกับผลกระทบที่ไม่สามารถควบคุมได้

 

 

 

นายนิพนธ์ ยังตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการวางแผนโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ควบคู่ไปกับการกำหนดยุทธศาสตร์การแข่งขันของชาติ มากกว่าการเร่งเปิดทางให้กับธุรกิจที่อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อสังคม โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประเทศไทยควรมุ่งเน้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล พัฒนาแรงงานในอนาคต และสนับสนุนการใช้เทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสร้างงานใหม่และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน แทนที่จะฝากความหวังไว้กับรายได้ระยะสั้นจากธุรกิจการพนัน

นายนิพนธ์ทิ้งท้ายว่า การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ต้องมาพร้อมกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกระดับ โดยเฉพาะเยาวชนและครอบครัว หากรัฐบาลให้ความสำคัญกับการเปิดพื้นที่ให้กับธุรกิจการพนันมากกว่าการลงทุนด้านการศึกษาและสุขภาพ ย่อมสะท้อนว่าประเทศกำลังมุ่งไปในทิศทางที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สหรัฐจ่อขึ้นบัญชีดำธุรกิจฟอกเงินกัมพูชาโยงญาติฮุนมาเน็ต
ฮุนเซนวิงวอนนานาชาติหนุนกัมพูชาในศาลโลก
ฮุนเซนบอกคนไทยให้โทษกองทัพตัวเองถ้ากัมพูชาปิดด่าน
"สันติสุข" สวนแรง 6 คำขู่ "ฮุนเซน" ปลุกเขมรตอบโต้ไทย สุดท้ายทำปท.เดือดร้อน หลักฐานชี้ "พ่อลูกฮุน" ไม่ได้รักประชาชนจริง
"อนุทิน" เผยคุย "นายกฯอิ๊งค์" ไม่มีปมปรับครม. มั่นใจนั่งเก้าอี้มหาดไทยต่อ
"ฮุน มาเนต" โพสต์ส่งตัวแทนกัมพูชา ยื่นจดหมายถึงศาลโลกแล้ว ลั่นจะไม่ถอยหนี หวังฮุบ 4 พื้นที่พิพาท
เตือนภัย "มิจฉาชีพ" อ้างเป็นทนาย-ตำรวจ หลอกช่วยเหลือคืนเงินผู้เสียหายคดีออนไลน์ พบสูญเงินกว่า 10 ล้าน
"ทัพเรือ" แจงคลิป ทหารเขมรสอดแนม ฐานชำราก ยันเขตแดนไทยอยู่ห่างพื้นที่อ้างสิทธิ์ทางบก 200 เมตร
"ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์" จับต่างด้าวเถื่อนลอบเข้าไทย จ่าย 55,000 ใช้ไทยทางผ่านไปทำงานมาเลเซีย
‘สุชาติ’ ขึ้นศาลไต่สวนมูลฟ้องคดีถูก ‘รักชนก- สหัสวัติ’ หมิ่นประมาท จ่อมอบทนายความฟ้องอีก 1 คดี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น