อธิการบดีอัดคลิปแฉปมทุจริตใน ม.ราชภัฎเมืองคอน

เปิดโปงปมสั่งพัก ฯอธิการบดียาวกว่า 1 ปี หลังตรวจพบพบมหกรรมทุจริตใน ม.ราชภัฎเมืองคอน

จากกรณีที่ ผศ.ดร.ฆนัท ธาตุทอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ได้เผยแพร่คลิปทางสื่อโซเชี่ยล เรื่อง “เส้นทางถอนถอดอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช” เป็นตอน ๆ ในเพจเพซบุ๊ค “ฆนัท ธาตุทอง” อย่างต่อเนื่องงจนมีผู้สนใจเข้าไปติดตามและวิพากวิจารณ์อย่างกว้างขวาง รวมทั้งเปิดเผย จดหมายร้องทุกข์ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม , ประธานคณะกรรมการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์และร้องทุกข์ กรณีที่สภามหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช มติให้ ผศ.ดร.ฆนัท พักการปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งอธิการบดี มรภ.นศ นครศรีธรรมราช เมื่อ 17 ก.ค.2563 พร้อมแต่งตั้ง กก.ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่ถูกร้องเรียน และลากยาวถึง 333 วันจนเมื่อวันที่ 12 ก.ค.2564 มีการรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ส่งขึ้นไปยัง สภา มรภ.นครศรีธรรมราช และ นายกสภา มรภ. นครศรีธรรมราช เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเสนอเรื่องไปยังปลัดกระทรวง ฯพิจารณาต่อตามขั้นตอน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบคืบหน้าหรือทราบว่ามีความผิดในเรื่องใด โดยมีผู้ให้ความสนใจเข้าไปติดตามและวิพากวิจารณ์อย่างกว้างขวาง


(28 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบพบว่า ผศ.ดร.ฆนัท ธาตุทอง ได้อักคลิปเรื่อง “เส้นทางถอนถอดอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช เป็นตอน ๆละ ประมาณ 5 นาทีโพสต์ลงในเพจเพซบุ๊ค “ดร.ฆนัท ธาตุทอง “ เพื่อสื่อสารชี้แจงข้อเท็จจริงในเหตุการณ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้สังคมและกล่าใมบุคคลที่วิพากวิจารณ์ให้ร้ายต่าง ๆ โดยอัดคลิปโพสต์ตั้งแต่วันที่ 18-28 ก.ย. รวม 18 คลิป เริ่มตั้งแต่วันจนโดยตอนแรกชี้แจงกรณีที่มีผู้สอบถามเรื่องความเป็นมาในการเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช และการถูกสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่รวมทั้งการที่สภา มหาวิทยาลัย ฯใช้เวลาในการสอบข้อเท็จจริงยาวนานถึงเกือบ 1 ปียังไม่เสร็จสิ้น


โดยในคลิปตอนหลัง ๆ หลายคลิปได้มีการระบุถึงเหตุการณ์เรื่องราวต่าง ๆ ที่สื่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบของบุคคล คณะบุคคล ในมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ทั้งเรื่องเก่าช่วงที่ ผศ.ฑนัท ยังไม่ได้รับพระบรมกรุณาโปรดเกล้าแต้งตั้งเป็นอธิการบดี และหลายเรื่องที่เขารับตำแหน่งอธิการบดีแล้ว จนทาง ผศ.ดร.ฆนัท ในฐานะอธิการบดี ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดได้เรียกทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง จนพบความผิดปกติ ไม่โปร่งใส ไม่ถูกน้องตามระเบียบราชการ จึงเชิญบุคคล คณะบุคคลที่เกี่ยวข้องในแต่ละเรื่อง แต่ละโครงการมาแนะนำ ตำหนิ ว่ากล่าวตักเตือน จนถึงการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง รวมทั้งบางบางโครงการมีคนร้องเรียนไปยังองค์กรตรวจสอบ ทั้ง สตง. ปปช.ก่อนหน้าแล้ว ซึ่ง ผศ.ดร.ฆนัท ยืนยันว่าเรื่องเหล่านี้สร้างความไม่พอใจให้กับบุคคล คณะบุคคล พนักงาน เจ้าหน้าที่บางส่วนเป็นอย่างมาก จนมีความพยายามที่จะต่อต้านอธิการบดีและมีการกลั่นแกล้งร้องเรียนในลักษณะบัตรสนเท่ห์ไปยังปลัดกระทรวงอุดมศึกษา ฯและสภามหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ซึ่งในปัจจุบันมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำไม่ถูกต้อง ไม่โปร่งใส่ ส่อทุจริตคอรัปชั่นนั่งเป็นคณะกรรมการสภา ฯอยู่ด้วย จนนำมาสู่มติการสังพักการปฏิบัติหน้าที่ โดยบุคคลที่ตนกำลังตรวจสอบ หรือตำหนิ ว่ากล่าวตักเตือน ร่วมยกมือลงมติพักการปฏิบัติหน้าที่ตนด้วย
ในคลิปยังระบุถึงโครงการต่าง ๆ ที่มีการกระทำผิดระเบียบราชการและส่อไปในทางทุจริต ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรงในวงราชการ อาทิ กรณีผู้ประกอบการร้องเรียนว่ามีคณะจารย์กลุ่มหนึ่งของมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ไปขอแบบบรรจุภัณฑ์ของร้านสินค่าโอท็อปชื่อดังในตัวเมืองนครศรีธรรมราช อ้างว่าจะนำไปศึกษาเพื่อต่อยอด แต่ก็ไม่ได้ไปดำเนินการอะไรเพิ่มเติมกลับนำบรรจุภัณฑ์ของผู้ประกอบการ 100 เปอร์เซ็นต์ไปนำเสนอเป็นผลงานวิจัยของตัวเอง และมอบให้กับผู้ประกอบการร้านค้าแบบเดียวกันซึ่งเป็นคู่แข่งของร้านเจ้าของบรรจุภัณฑ์ดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการรายดังกล่าวได้รับความเสียหาย โดยการวิจัยในโครงการนี้มีหลายผลงานมูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท


อีกคลิปหนึ่งระบุว่าการก่อสร้างอัฒจันทร์สนามกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราชงบประมาณกว่า 41.4 ล้านบาท แบ่งการจ่ายค่าก่อสร้างเป็น 14 งวด ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการมาก่อนที่ตนจะได้รับโปรดเกล้า ฯมาเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช มีการก่อสร้างและเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้ว 7 งวด รวม กว่า 17 ล้านบาท ยังไม่ส่งมอบงานอีก 7 งวด รวมกว่า 24.4 ล้านบาท เมื่อตนเข้ามารับตำแหน่งขอมีการเสนอให้ตนเซ่นอนุมัติงบประมาณค่าก่อสร้าง 24.4 ล้าน ตนและคณะจึงลงไปตรวจสอบพบว่านั่งร้านที่ค้ำเสาและหลังคาอัฒจันทร์ยังไม่ได้เอาลง ตนจึงถามว่าทำไมไม่เอานั่งร้านค้ำยันลงแล้วจะเบิกงบประมาณได้อย่างไร เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโครงการเดินมากระซิบข้างหูตนว่า เอาลงไม่ได้เพราะมันอันตราย เสี่ยงที่หลังวคาอัฒจันทร์จะพังลงมาได้” ตนและคณะจึงต้องรีบหนีจากพื้นที่ทันที เขาเลยอธิบายว่าปลายเสาจันทันค้ำยันหลังคาอัฒจันทร์มีปัญหาปลายตกไม่ผ่านค่ามาตรฐาน ทำให้การแอ่นเอนตัวของหลังคาผิดปกติ เสี่ยงที่จะพังถล่มเป็นอันตรายต่อชีวิตผู้ที่เข้าไปนั่งชมกีฬาได้ ตนจึงถามว่าแล้วก่อสร้างกันมาได้อย่างไรในงวดที่ 8 เป็นต้นมาทั้ง ๆ ที่พบความผิดปกติ ไม่ถูกต้องมาตั้งแต้ต้น ในที่สุดตนได้ทำเรื่องขอผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเจ้าคุณณทหารลาดกระบัง มาช่วยตรวจสอบ โดยทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเจ้าคุณณทหารลาดกระบังมอบหมายให้ ดร.อาทิตย์ เพชรศศิธร เป็นหัวหน้าโครงการเข้าตรวจสอบเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2563 และพบความผิดปกติที่อาจจะเกิดจากการคำนาณแบบผิดพลาด เป็นต้น ซึ่งโครงการนี้เรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ,บริษัทรับจ้างออกแบบการก่อสร้างจะต้องรับผิดชอบและจะมีการประชุมสรุปการดำเนินการแก้ไขปัญหากันอีกครั่งในวันที่ 15 ก.ค. 2563 แต่ตนมาถูกสภา ฯสักพักการปฏิบัติหน้าที่เสียก่อน นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคลิปที่ระบุเหตุการณ์และเรื่องราวที่ส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบ


ผศ.ดร.ฆนัท กล่าวในคลิปว่าจะทยอยจัดทำคลิปชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวเส้นทาง ปัญหาและอุปสรรค ต้นเหตุ ต้นตอของการถูกสภา ฯสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ มาโพสต์ชี้แจงเป็นระยะเพื่อให้ผู้ติดตามเข้าใจตรงกัน เนื่องจากตนเป็นคนที่มาจากที่อื่น คือมาจาก จ.สงขลา ไม่ได้รู้จักคณาจารย์หรือพรรคพวกเพื่อนฝูงในนครศรีธรรมราชมากนัก เมื่อเข้ามาปฏิบัติหน้าที่จึงประสบกับปัญหาอุปสรรคมากมาย ที่มีการกระทำไม่ถูกต้องและสะสมหมักหมมมาเป็นเวลานาน เมื่อตนตั้งใจที่จะพัฒนามหาวิทยาลัยให้เจริญรุ่งเรืองสนองแนวนโยบายตามพระราชดำริของในหลวง และเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามคณาจารย์ พนักงาน เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนทำให้ในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งอธิการบดี 2 ปี มีผลงานได้รับรางวัลในระดับชาติ ระดับภาคหลายรางวัล แต่ยอมรับว่ามีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการตรวจพบความไม่โปร่งใส่ ไม่ชอบมาพากลในหลายโครงการไม่พอใจ


ผู้สื่อข่าวพยายามจะสอบถามรายละเอียดข้อมูลปัญหาต่าง ๆ จาก ผศ.ดร.ฆนัท ธาตุทอง แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยยืนนยันว่าแม้ตนจะได้รัยความเสียหายที่ถูกสภา ฯสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ แต่ตนก็ไม่ได้เรียกร้องโวยวาย หรือร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานหรือองค์กรตรวจสอบต่าง ๆ รวมทั้งสื่อมวลชน เพราะเกรงอาจจะขัดต่อวินัยการเป็นข้าราชการ แต่ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง และความเป็นธรรมตามช่องทางระเบียบข้าราชการพลเรือนเท่านั้น อาทิ ปลัดกระทรวง ฯนายกสภา ฯและล่าสุดจดหมายร้องทุกข์ถึงประธานคณะกรรมการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์และร้องทุกข์ และกำลังจะยื่นร้องต่อผู้ตรวจการณ์รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นต้น เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและขอให้สภา ฯมีมติให้เข้าปฏิบัติหน้าที่ ฯตามที่ได้รับพระมหากรุณาโปรดเกล้าอย่างเร่งด่วนต่อไป โดยมีหลายโครงการที่สนองพระราชปณิธารของพระยาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่คั่งค้างอยู่ โดยถูกระงับ ยกเลิกไปหลายโครงการ อาทิ “ต้นแบบหรือโมเดลโคกหนองนา มหาวิทยาลัยราชภัฎ”เป็นต้น.ซึ่งข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป.


ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“นกเค้าแมว วปอ.66” เติมสุขเด็กกำพร้า มอบน้ำสะอาด-เลี้ยงอาหารกว่า 1,000 ชีวิต
“ฮุน มาเนต” เคลื่อนไหว หลังไทยผ่อนผัน รถสินค้าเข้า-ออกด่าน จ.สระแก้ว ย้ำกัมพูชาจะเปิดด่านทันที หากไทยเปิดก่อน อยากกลับสู่ภาวะปกติ
“เสรี” ประเมิน “นายกฯ” ไม่น่ารอด โดนหลายคดี มวลชนมากมายขับไล่ ต้องเลือกยุบสภา-ลาออกเท่านั้น
สื่อนอกตีข่าวคนไทยชุมนุมขับไล่นายกรัฐมนตรี
จบแล้ว ศึกชิงคลื่น 5G กสทช. " 2 ค่ายยักษ์มือถือ" ลุยแข่ง ความถี่ 2,100 MHz 2,300 MHz มูลค่าพุ่งกว่า 4 หมื่นล้าน
"แม่ทัพภาคที่ 2" ร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญ นศ.มทส. เล่าย้อนชีวิตสมัยเรียน ปลุกคนรุ่นใหม่ รักชาติ-แผ่นดิน ยันไม่ยอมเสียดินแดนแม้ตารางนิ้วเดียว
อิหร่านขยายการเปิดน่านฟ้าหลังหยุดยิงกับอิสราเอล
IAEA ชี้อิหร่านอาจเสริมสมรรถนะยูเรเนียมในอีกไม่กี่เดือน
ผู้ว่าฯตราดเปิด “วิ่งเกาะกูดมินิมาราธอน68” กระตุ้นการท่องเที่ยว
เริ่มแล้ว!! กิจกรรมปั่นเบญจบูรพา จากภูผาสู่มหาสมุทร สนามที่ 3 สระแก้ว-จันทบุรี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น