AFP, AP, รอยเตอร์ส, อัลจาซีรา และสื่อยักษ์ใหญ่ระดับโลกอีกหลายสำนักรายงานว่าคนไทยนับหมื่นคนได้ฝ่าพายุฝนฟ้าคะนองเพื่อมารวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อวานนี้ (เสาร์ที่ 28 มิย.) เพื่อขับไล่นายกรัฐมนตรีแพทองธารพ้นตำแหน่ง โดยบางสื่อประเมินว่ามีผู้เข้าร่วมชุมนุมราว 2 หมื่นคน บางสื่อประเมินที่ 1 หมื่นคน และการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปีนับตั้งแต่พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นรัฐบาล และยังมีขึ้นท่ามกลางมรสุมทางการเมืองหลายลูกที่แพทองธารกำลังเผชิญอยู่อย่างหนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ, ปัญหาพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวและมีความเป็นไปได้ที่อาจจะโดนมติไม่ไว้วางใจในเดือนหน้า
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าการชุมนุมมีขึ้นหลังจากฮุนเซน รัฐบุรุษอาวุโสของกัมพูชาปล่อยคลิปเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์กับแพทองธารซึ่งมีเจตนาจะคลี่คลายข้อพิพาทชายแดน แต่ในคลิปแพทองธารเรียกฮุนเซนว่า “uncle” แต่อ้างอิงถึงผู้บัญชาการกองทัพไทยว่า “ฝ่ายตรงข้าม” ทำให้จุดกระแสความโกรธแค้นไปทั่วประเทศ รวมท้้งพรรคภูมิใจไทยซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่สำคัญโดยกล่าวหานายกรัฐมนตรีไทยวัย 38 ปีว่าก้มหัวให้กัมพูชาและบ่อนทำลายกองทัพไทย
AFP เผยว่าผู้ประท้วงส่วนใหญ่อยู่ในวัยอาวุโสและมีกลุ่มเสื้อเหลืองซึ่งเคยชุมนุมขับไล่ทักษิณ ชินวัตร พ่อของแพทองธารมาก่อน นอกจากนี้ยังมีอดีตพันธมิตรคนสำคัญของทักษิณ ซึ่งตอนนี้กลายมาเป็นกลุ่มต่อต้านและโจมตีทักษิณอย่างรุนแรงที่สุดคนนึง ทั้งยังเป็นหนึ่งในแกนนำจัดการชุมนุมด้วย
ขณะที่ผู้เข้าร่วมชุมนุมก็มีอดีตเสื้อแดงกลับใจวัย 64 ปีที่เปิดใจว่าเธอรู้สึกปวดใจมากที่เห็นคนไทยไม่รักชาติ ส่วนผู้ประท้วงซึ่งเป็นอดีตข้าราชการวัย 62 ปีแสดงความโกรธแค้นและกล่าวว่า “บรรพบุรุษของเราเสียเลือดเนื้อและน้ำตาเพื่อปกป้องแผ่นดินนี้ แต่นักการเมืองกลับจะยกดินแดนให้ศัตรูเพื่อประโยชน์ส่วนตัว” ขณะที่ไกด์วัย 47 ปีจากสุราษฎร์ธานีบอกว่าไม่เคยเห็นนายกรัฐมนตรีคนไหนที่อ่อนแอขนาดนี้มาก่อน
ทั้งนี้สื่อต่างชาติมองว่าอนาคตทางการเมืองแพทองธารกำลังสั่นคลอนอย่างหนัก โดยสัปดาห์นี้ทั้งแพทองธารและทักษิณ สองพ่อลูกจะเผชิญกับการตัดสินคดีซึ่งอาจทำให้ฉากทัศน์การเมืองไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงก็เป็นได้ ซึ่งก็รวมถึงการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญที่จะตัดสินว่าจะรับคำร้องของวุฒิสมาชิกที่เสนอถอดถอนแพทองธารออกจากตำแหน่งเพราะบริหารประเทศไม่เป็นมืออาชีพ วันเดียวกันทักษิณก็จะถูกไต่สวนในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพจากที่เคยไปให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีเมื่อสิบปีก่อน