“ดร.สนธิ” เผย คนไทยกำลังจะต้องเสีย “ภาษีคาร์บอน” เพิ่มขึ้นอีกรายการ เพื่อช่วยกันลดโลกร้อน

ดร.สนธิ คชวัฒน์ เผย คนไทยกำลังจะต้องเสีย "ภาษีคาร์บอน" เพิ่มขึ้นอีกรายการ เพื่อช่วยกันลดโลกร้อน

“ดร.สนธิ” เผย คนไทยกำลังจะต้องเสีย “ภาษีคาร์บอน” เพิ่มขึ้นอีกรายการ เพื่อช่วยกันลดโลกร้อน – Top News รายงาน

 

วานนี้ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2567 ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ คนไทยกำลังจะต้องเสียภาษีคาร์บอนเพิ่มขึ้นอีกรายการ…เพื่อช่วยกันลดโลกร้อน โดยระบุข้อความว่า.. คนไทยกำลังจะต้องเสียภาษีคาร์บอนเพิ่มขึ้นอีกรายการ…เพื่อช่วยกันลดโลกร้อน..
1. ปี 2569 ยุโรปจะเริ่มเก็บภาษี Carbon Border Adjustment Mechanism : CBAM หรือภาษีนำเข้าคาร์บอนเป็นมาตรการปรับราคาสินค้านำเข้าบางประ เภทก่อนเข้าพรมแดนของสหภาพยุโรป เพื่อป้องกันการนำเข้าสินค้าที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง อุตสาหกรรม มีเป้าหมาย จากเดิม 5 กลุ่มสินค้า ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้า อะลูมิเนียม ซีเมนต์ ปุ๋ย และไฟฟ้าให้เพิ่มเป็น 7 กลุ่มสินค้าโดยรวมไฮ โดรเจนและสินค้าปลายน้ำบางรายการ เช่น น็อตและสกรูที่ทำจากเหล็กและเหล็ก กล้า ด้วย โดยผู้นำเข้าจะต้องซื้อใบรับรอง CBAM ตามปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสินค้านั้นและต้องจ่ายภาษีคาร์ บอนตามปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระ จกของสินค้าที่ตนนำเข้า นอกจากนี้ยุโรปกำลังจะมีการขยายไปที่สินค้าประเภทอื่น ๆอีกด้วย เช่น สารอินทรีย์พื้นฐานพลาส ติกและโพลีเมอร์ แก้ว เซรามิค ยิปซัม กระดาษ เป็นต้น
ผู้ส่งออกไทยเตรียมตัวจ่ายเพิ่ม…

ดร.สนธิ

ข่าวที่น่าสนใจ

2. สำหรับประเทศไทย ในปีงบประมาณปี 68 กรมสรรพสามิตจะเริ่มจัดเก็บภาษีคาร์ บอน (Carbon Tax)นำร่อง โดยจะนำภาษีคาร์บอนแทรกอยู่ในโครงสร้างภาษี คาดว่าจะเก็บภาษีคาร์บอนอยู่ที่ 200 บาทต่อตันคาร์บอนโดยเริ่มต้นที่น้ำมันดีเซลก่อนซึ่งน้ำมันดีเซล 1 ลิตรจะปล่อยก๊าซคาร์ บอนไดออกไซด์ 0.0026 ตันคาร์บอน ดังนั้น น้ำมันดีเซล 1 ลิตรจะเสียภาษีคาร์บอนเท่ากับ 0.46 บาทต่อลิตรโดยบวกไว้ในรา คาน้ำมัน

3. ภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) เป็นภาษีที่เก็บจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก โดยฐานภาษีคาร์บอนที่ใช้ในการจัดเก็บ มี 2 แบบ คือ
1.จัดเก็บภาษีทางตรงจากปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตสินค้า
2. จัดเก็บภาษีทางอ้อมตามการบริโภค
…ต่อไปผู้บริโภคเองอาจจะสามารถตัดสินใจเลือกอุดหนุนผลิตภัณฑ์ที่มีการปล่อยคาร์ บอนต่ำและสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้โดยดูจากฉลากคาร์บอนที่ติดมากับสินค้า

4. ประเทศไทยปักหมุดมุ่งสู่การเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)ภายในปี 2593 รวมถึงขยับสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net zero emissions) ภายในปี 2608 ได้ตั้งเป้าการลดก๊าซเรือนกระจกในรูปคาร์บอนไดออกไซด์ จากค่าสูงสุดของไทย 388 ล้านตันต่อปี ลงไปเหลือ120 ล้านตันต่อปี โดยแผนระยะสั้นจากนี้ไปจนถึง ปี พ.ศ. 2573 จะต้องลดก๊าซเรือนกระจก ให้ได้ 40%

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กรุงไทยนำเทรนด์! จับมืออินฟลูฯสายท่องเที่ยว สร้างปรากฏการณ์ TOURIST สู่ TOURICH ผ่าน Krungthai Travel Debit Card
สสจ.มุกดาหาร ยืนยันพบผู้ติดเชื้อ "แอนแทรกซ์" เพิ่ม 1 ราย รอผลตรวจกลุ่มเสี่ยงอีก 3 ราย
TPIPL จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568
เพราะทะเลคือชีวิต ซีพีร้อยเรียงความดีผนึกชุมชน ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ 76 ล้านตัว สร้างความยั่งยืนให้ชายฝั่งตราด
ไม่รอด จนท.จับรถบรรทุกแตงกวา ยัดไส้ขน "แรงงานต่างด้าว" ชาวเมียนมา ลอบเข้าประเทศ
ศาลอุทธรณ์ให้ประกัน "ประยุทธ มหากิจศิริ" แล้ว วางหลักประกัน 1 ล้าน ห้ามออกนอกประเทศ
แนะนำ 10 ศูนย์กายภาพบำบัดในกรุงเทพ 2025 เลือกที่ไหนดี
"สมศักดิ์ แสงสุริยา" กับเทคนิคเลี้ยงกุ้งให้รอด ณ สมุทรสงคราม
‘อธิบดีโยธาฯ’ มั่นใจแบบจำลองโมเดล พิสูจน์หาสาเหตุ ‘ตึกสตง.’ถล่มได้ คาด 90 วันรู้ผล
สนง.สลากฯ เปิดตัว ‘ยูนิฟอร์ม’ จำหน่ายสลาก N3 เพิ่มความสะดวกให้ผู้ซื้อ ยันไม่กระทบยอดขาย L6

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น