วันที่ 5 มิถุนายน 2567 ศาลสั่งจำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน แต่ขณะร่วมชุมนุมยังเป็นเพียงเยาวชน โทษจำคุก ให้เปลี่ยนเป็นเข้าศูนย์ฝึกอบรมกรุงเทพฯ กำหนดขั้นต่ำ 1 ปี และขั้นสูงสุด 2 ปี ให้ฝึกวิชาชีพ คนละ 3 หลักสูตร ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นประกันตัว
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากการที่กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมได้จัดกิจกรรม #ใครๆก็ใส่ครอปท็อป หรือ #แต่งครอปท็อปเดินห้างสยามพารากอน เพื่อรณรงค์ยกเลิกมาตรา 112
ต่อมา ว่าที่ ร.ต.นรินทร์ ศักดิ์เจริญชัยกุล จากกลุ่ม “ไทยภักดี” ได้ดำเนินการแจ้งความกล่าวหา ตามมาตรา 112 ต่อนักกิจกรรม 7 คน ไว้ที่ สน.ปทุมวัน โดยแกนนำ 5 ราย ได้แก่ “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์, “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก, เบนจา อะปัญ และภวัต หิรัณย์ภณ ถูกฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ขณะที่คดีของเยาวชน 2 รายถูกฟ้องที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2564
โดยมีรายละเอียดว่า นอกจากจำเลยทั้ง 2 หรือ “เพชร” ธนกร และ “บีม” ณัฐกรณ์ จะใส่ชุดครอปท็อป เข้าร่วมกิจกรรม และร่วมชู 3 นิ้ว ยังมีการชูป้ายกระดาษมีข้อความ “ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” และ “ยกเลิก ม.116, ม.112” และ รวมทั้งร่วมชู 3 นิ้วเท่านั้น รวมถึงแสดงออกในลักษณะเป็นพวกเดียวกันกับนักกิจกรรมคนอื่น ๆ โดยแสดงตนหรือบทบาทล้อเลียนดูหมิ่นรัชกาลที่ 10, พระราชินี และสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้ประชาชนเสื่อมความเคารพ ความศรัทธาต่อพระมหากษัตริย์
